วิธีเลือกระบบ POS ตัวช่วยการขาย สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าปลีก

ในปัจจุบันนี้ระบบ POS ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมาก สำหรับธุรกิจหลาย ๆ รูปแบบ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหน้าร้าน หนึ่งในนั้นคือร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำ ที่หากมีระบบ POS ร้านค้าปลีกที่ดี จะช่วยให้จัดการสต็อกสินค้าและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารร้านค้าได้ง่าย ๆ เพิ่มกำไรได้มากขึ้น ด้วยตัวช่วยการขายเพื่อผู้ประกอบการร้านค้าปลีกโดยเฉพาะ

ระบบ POS คืออะไร?

ระบบ POS หรือ Point of Sale เป็นระบบที่มาช่วยจัดการออเดอร์และรายการขายของธุรกิจแบบครบวงจร คิดเงินให้อัตโนมัติ ทำให้จัดการออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว บันทึกยอดขายพร้อมจัดทำใบเสร็จได้ง่าย ๆ ผ่านระบบ POS ทำให้ไม่เกิดความผิดพลาดในการทำบัญชีหรือสรุปรายงานการขาย เพราะเป็นระบบที่จัดการและบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติ และที่สำคัญฃคือ ใช้อุปกรณ์น้อยแต่มีความครอบคลุมในการทำงาน ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจที่มีหน้าร้านทุกรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ ร้านค้าปลีก หรือ ร้านโชห่วย

การเลือกระบบ POS สำหรับร้านค้าปลีก

การเลือกใช้ระบบ POS ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องเลือกระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม โดยตัวโปรแกรม POS ไม่ได้ทำหน้าที่แค่การจัดการการขายหน้าร้านเท่านั้น แต่ยังช่วยในด้านอื่น ๆ ได้ด้วย โดยการเลือกระบบ POS สำหรับขายหน้าร้าน ก็สามารถเลือกได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. ประเภทของฮาร์ดแวร์ที่ใช้

โดยฮาร์ดแวร์ระบบ POS จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งและวิธีดำเนินกิจการ เช่น หากเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกที่มีการเดินทางไปให้บริการลูกค้าถึงหน้าบ้านด้วย ก็อาจจะต้องใช้อุปกรณ์​ POS แบบพกพา เพื่อให้ชำระเงินได้ทุกที่ ทั้งนี้ ก็ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับอุปกรณ์ที่ต้องใช้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ, เครื่องสแกน Barcode, แท็บเล็ต ฯลฯ ซึ่งระบบ POS โดยส่วนมากจะออกแบบมาให้ใช้แบบ All – in – One อยู่แล้ว เพื่อให้ทุกธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้อย่างสะดวกมากขึ้น และไม่ต้องใช้พื้นที่เกินความจำเป็น

2. ประเมินความต้องการของธุรกิจ

โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีก ที่มักจะมีปัญหาในเรื่องการสต็อกสินค้า ทำให้บางครั้งไม่รู้ว่าสินค้าชนิดไหนขายดีหรือขายไม่ดี หรือหากเป็นสินค้ากลุ่มเดียวกันก็ต้องดูยี่ห้อที่ได้รับความนิยมร่วมด้วย ดังนั้น การใช้ระบบ POS จะทำให้รู้ว่าร้านของเรายังขาดเหลืออะไร มีปัญหาตรงไหน ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องประเมินให้ได้ว่า จะนำระบบ POS มาช่วยแก้ไขปัญหาในด้านไหนบ้าง แล้วจะนำไปต่อยอดในด้านใด เช่น วิเคราะห์ยอดขาย แล้วนำไปสู่การคัดเลือกสินค้าเพื่อนำมาสต็อกในร้านค้าปลีก เป็นต้น

3. งบประมาณสำหรับระบบ POS

สำหรับราคาของระบบ POS แต่ละเจ้าก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์และขนาดของธุรกิจที่ต้องการใช้ระบบ ซึ่งหากเป็นร้านค้าปลีกขนาดกลางก็อาจจะไม่ต้องใช้ระบบ POS ที่มีความซับซ้อนมากนัก แต่หากมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านต่อปี มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% ก็อาจจะต้องมีฟังก์ชันเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เอื้อต่อการทำบัญชีและการยื่นภาษี

4. ฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ของระบบ POS ที่ใช้

โดยฟีเจอร์ที่ระบบ POS มีในปัจจุบัน ก็มีตั้งแต่ระบบสต็อกสินค้า, ฟีเจอร์รายงานการขาย, CRM, การบริหารและจัดการพนักงาน นอกจากนี้ ระบบ POS บางตัวยังรองรับการเชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ได้ด้วย ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่มีระบบการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะในยุคที่การซื้อขายผ่าน E-Commerce มาแรง จนทำให้หลาย ๆ ธุรกิจมีร้านค้าออนไลน์ร่วมด้วย ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าปลีกเช่นกัน

5. การใช้งานของระบบ POS

สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะตอบได้ว่าร้านค้าปลีกหรือธุรกิจนั้น ๆ เหมาะสำหรับการใช้ระบบ POS แบบไหน ก็คือการสังเกตจากการใช้งานจริง เช่น ทดลองใช้ระบบขายหน้าร้านฟรี ก่อนตัดสินใจซื้อระบบ POS มาใช้จริง ซึ่งจุดนี้นอกจากจะได้เรียนรู้ระบบอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ยังเป็นการรีเช็กระบบด้วยว่า เมื่อใช้งานจริงแล้วมีความลื่นไหลมากน้อยแค่ไหน หน่วงหรือไม่ เช่น เมื่อทำรายการขายสินค้าแล้วต้องการทำสร้าง QR Code เพื่อให้ลูกค้าสแกนจ่ายผ่าน PromptPay ต้องรอนานไหม มีปัญหาบ่อยหรือไม่

ใช้ระบบ POS ที่มีมาตรฐาน ต้องมีบริการหลังการขาย

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกใช้โปรแกรม POS สำหรับร้านค้าปลีกและธุรกิจ SMEs ตัวไหนก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องเลือกใช้ระบบจากผู้ให้บริการที่มีการบริหารหลังการขาย และมีการดูแลอย่างครบวงจร เช่น มีทีมงานคอยช่วยเหลือในการติดตั้งและให้คำแนะนำในการใช้งาน เพื่อให้ใช้ระบบ POS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเข้าใจหลักการในการทำงานของโปรแกรม POS จริง ๆ

และที่ขาดไม่ได้คือ หากเกิดปัญหาในการใช้งาน ควรติดต่อผู้ให้บริการหรือทีมงานได้เสมอ ไม่ใช่การขายแล้วจบ ชนิดที่ว่าทิ้งผู้ประกอบการเอาไว้กลางทาง เพราะตัวโปรแกรมและระบบ POS มักจะมีการอัปเดตระบบให้พัฒนาอยู่เสมอ ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ มีบริหารหลังการขายที่ดี จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการเลือกระบบ POS สำหรับทุกธุรกิจเช่นกัน

ทดลองใช้โปรแกรม POS วันนี้ ที่ SMEMOVE

สำหรับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการที่ใช้แพ็กเกจของทาง โปรแกรมบัญชีออนไลน์ SMEMOVE อยู่แล้ว สามารถใช้บริการระบบ POS ได้ทันที เริ่มต้นเพียงแค่ 199.- /เดือน เท่านั้น โดยระบบ POS ของเรา รองรับการทำงานแบบครบวงจร เชื่อมต่อกับข้อมูลทางบัญชีในโปรแกรมโดยตรง และที่สำคัญ มีระบบสต็อกสินค้าที่สามารถจัดการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รองรับทั้งธุรกิจร้านค้าปลีก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร รวมถึงกลุ่ม SMEs และที่สำคัญคือ ติดตั้งโปรแกรมได้ง่ายมาก ๆ มีเพียงเครื่องสแกนบาร์โค้ด เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ และลิ้นชักเก็บเงิน ก็เริ่มต้นใช้ระบบ POS ได้แล้ว

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP