เรื่องการขอขึ้นเงินเดือนนั้นเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือใหญ่ต่างต้องเคยเจอพนักงานขอขึ้นเงินเดือนบ้าง (แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละบริษัทจะมีเกณฑ์การขึ้นเงินเดือนเป็นของตัวเองอยู่แล้ว) อย่างไรก็ตาม มีเรื่องหนึ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับเลขาฯ ของ Elon Musk ที่ได้ขอขึ้นเงินเดือนโดยตรงกับ Musk เอง
เลขาฯ สาวคนนี้มีชื่อว่า Mary Beth Brown ซึ่งทำงานเป็นเลขาฯ ของ Musk มายาวนานถึง 12 ปี คุณ Brown นั้นคิดว่าด้วยระยะเวลาในการทำงานที่ยาวนานขนาดนี้พร้อมกับความสำเร็จของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้น เธอน่าจะได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นบ้าง ดังนั้น เธอจึงไปพูดเรื่องการขอขึ้นเงินเดือนกับ Musk โดยตรง แต่เรื่องดันพลิกตรงที่ว่า Musk ให้เธอไปพักร้อน 2 สัปดาห์ แทนแล้วค่อยกลับมาใหม่
เมื่อ Brown กลับมาจากการพักร้อนของเธอแล้ว ปรากฏว่า Musk ได้บอกเธอไปว่าเขาไม่มีเธอก็สามารถทำงานได้ตามปกติ ดังนั้น ในตำแหน่งของเธอก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ทาง Musk เองก็ไม่ได้ใจร้ายอย่างนั้น เพราะเขาได้เสนอตำแหน่งงานอื่นในบริษัทให้กับเธอ แต่ทว่า Brown เองก็ไม่ตอบรับแล้วหายไปตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ทาง Business Insider ได้ขอความเห็นจาก Lynn Taylor ผู้แต่งหนังสือ “Tame Your Terrible Office Tyrant: How to Manage Childish Boss Behavior and Thrive in Your Job” เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเธอได้พูดถึงกลยุทธ์ในการประเมินคุณค่าของตัวเองในการทำงานมาเล็กน้อยก่อนที่จะมีคนอื่นมาแย่งงานของคุณไป
สิ่งแรกเลยเราจะต้องตรวจสอบความรับผิดชอบของงานที่เราต้องทำทั้งวันโดยใช้เวลาสัก 15 นาทีต่อวัน ในการคิดว่าตัวคุณเองนั้นทำงานอะไรบ้างในแต่ละวัน คุณจะต้องดูด้วยว่างานที่คุณทำนั้นมันสามารถทำให้เจ้านายของคุณมีความสุขหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือใช่ หรือแม้แต่อาจจะใช่ ต่อไปก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องพยายามให้มากขึ้น
สิ่งที่คุณควรจะทำหลังจากสำรวจตัวเองแล้วนั้น คุณจะต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้เจ้านายของคุณต้องการคุณจริง ๆ ให้ได้ ไม่ใช่แค่ว่ามีคุณให้สามารถใช้งานได้เท่านั้น ดังนั้น คุณควรจะดูว่าอะไรที่ทำให้เจ้านายของคุณประสบความสำเร็จแล้วนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมาปรับใช้กับตัวเองให้ได้ (หรือวิธีที่เรียกว่า “Managing up” หรือการค้นหาวิธีที่คุณจะทำให้เจ้านายของตัวเองดีที่สุดกับเจ้านายของเจ้านายครับ)
Mary Beth Brown
เทคนิคหนึ่งที่น่าจะใช้ได้ดีก็คืออย่าอายที่จะถาม คุณอาจจะลองถามเจ้านายของคุณว่าคุณสามารถที่จะทำอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้องค์กรเติบโตมากขึ้นอีกไหม อย่ากลัวที่จะถามและต้องไม่รอจนกว่าคุณจะถูกทบทวนเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานประจำปี (หรือบางบริษัทอาจจะเป็นไตรมาสแตกต่างกันไป)
อีกวิธีหนึ่งที่ทาง Taylor ได้บอกเอาไว้ก็คือ คุณควรเสนอตัวเพื่อเข้าช่วยงานของเจ้านายคุณโดยไม่จำเป็นต้องรอเจ้านายสั่ง อย่างเช่น เจ้านายคุณกำลังทำงาน ABC อยู่ และคุณมีความรู้ในเรื่อง A คุณควรจะเข้าไปบอกกับเจ้านายของคุณตรง ๆ ว่าคุณมีความรู้เรื่อง A เจ้านายจะให้คุณช่วยไหม เป็นต้น แบบนี้จะทำให้เจ้านายเห็นว่าคุณมีความใส่ใจในเรื่องงานด้วย
สิ่งหนึ่งที่เรื่องของ Mary Beth Brown สอนให้เรารู้ นั่นก็คือไม่มีใครในองค์กรที่จะขาดไม่ได้ มีคนพร้อมที่จะเข้ามาแทนที่คุณเสมอ ดังนั้น การแสดงตัวตนให้เห็นว่าคุณมีความสำคัญกับองค์กรจะเป็นวิธีการที่ทำให้ไม่เกิดกรณีแบบคุณ Brown กับคุณ
เห็นไหมว่างานของคุณก็มีคนอื่นทำแทนได้ ถ้าคุณไม่พยายามกับงานของคุณให้เพียงพอ แต่งานเกี่ยวกับบัญชีที่ทุกคนคิดว่ายากก็จะแทนที่ด้วยโปรแกรมบัญชีที่ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นได้ อย่างโปรแกรมบัญชี SMEMOVE ที่ช่วยให้คนที่ไม่มีความรู้บัญชีมากนักก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE