ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคนี้พนักงานหรือมนุษย์ออฟฟิศ ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับ “สวัสดิการบริษัท” และ “สวัสดิการพนักงาน” กันมากขึ้น เพราะการมีสวัสดิการที่ดี ไม่ได้แค่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อภาพลักษ์ขององค์กรด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง SMEMOVE ก็ไม่พลาด ที่จะมาแนะนำสวัสดิการบริษัทที่น่าสนใจ ที่นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนทำงานด้วยแล้ว ยังเป็นสวัสดิการที่พนักงานต้องการมากที่สุดในยุคนี้!
ทำความรู้จัก “สวัสดิการบริษัท” คืออะไร?
คำว่า สวัสดิการบริษัท หรือ สวัสดิการพนักงาน ก็คือ ผลประโยชน์ที่พนักงานในบริษัทจะได้รับเพิ่มเติม ที่อยู่นอกเหนือจากค่าตอบแทน หรือเงินเดือนจากบริษัทที่จะได้รับในทุก ๆ เดือน ซึ่งสวัสดิการบริษัทนั้นมีความหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เงินโบนัส ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต วันหยุด ฯลฯ
และที่ขาดไม่ได้คือ เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการสำหรับพนักงานที่ได้รับความนิยม และบริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งมีให้กับพนักงาน เช่น บริษัทมหาชน ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง และมีระบบระเบียบเรื่องการบริหารงานที่ดีกว่าบริษัทขนาดเล็ก จึงทำให้มีเงินสนับสนุนและมีสวัสดิการที่ดี
ข้อดีของการมีสวัสดิการบริษัท
ข้อดีของการมีสวัสดิการบริษัทนั้น นอกจากจะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกไปด้วย เช่น บริษัทที่มีประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุให้ พนักงานก็สามารถใช้สิทธิดังกล่าวนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ประกันสังคม ลดความกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย และการเลือกใช้บริการสถานพยาบาลได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือ ไม่ต้องซื้อประกันดังกล่าวนี้เพิ่มด้วยตัวเอง เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ได้ผลประโยชน์จากการมีสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี การทำให้พนักงานมีความเชื่อมั่นต่อองค์กร และดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานได้ง่ายมากขึ้น ทั้งยังทำให้พนักงานมีความผูกพันกับองค์กร และที่สำคัญคือ ลดอัตราการเปลี่ยนงาน หรือการ Turn Over ได้ด้วย เพราะพนักงานที่จะย้ายงานก็ต้องให้ความสำคัญต่อสวัสดิการที่จะได้รับ ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า บริษัทที่มีสวัสดิการเจ๋ง ๆ จะมีพนักงานเก่ง ๆ มากกว่า ทั้งยังทำงานได้นานกว่าเช่นกัน
ส่อง 7 สวัสดิการบริษัทเจ๋ง ๆ ที่ถูกใจคนทำงาน
ในปัจจุบันนี้สวัสดิการบริษัทแต่ละแห่ง ต่างก็จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการให้ความสำคัญว่าพนักงานควรจะได้รับสวัสดิการแบบไหน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงงบประมาณของบริษัทที่มีด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นมาลองดูกันว่าในปัจจุบันนี้ มีสวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจอะไรบ้างที่มาแรง และติดอันดับสวัสดิการที่พนักงานหลายคนอยากได้!
1. โบนัสและการปรับเงินเดือนประจำปี
สวัสดิการบริษัทที่ควรมีเป็นอันดับแรก ๆ ของทุกองค์กรก็คือ การปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงานในทุก ๆ ปี รวมถึงการให้โบนัสพิเศษประจำปี ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลตอบแทนสุดพิเศษและถือเป็นรางวัลจากองค์กร ที่มอบให้กับพนักงานที่ได้ทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งปี ซึ่งบางบริษัทอาจจะให้โบนัสทุก 6 เดือน ขึ้นอยู่กับผลประกอบการหรือโครงสร้างของบริษัท เช่น บริษัทมหาชน ที่มักจะให้โบนัสแก่พนักงานปีละ 2 ครั้ง
นอกจากนี้ การปรับเงินเดือนประจำปี ยังช่วยกระตุ้นให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานได้ดีเช่นกัน เพราะบางบริษัทนอกจากจะมีการปรับตามฐานของบริษัทแล้ว ยังใช้ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น การประเมินจากผลงาน การปรับเงินเดือนตามตำแหน่ง รวมถึงจากเพื่อนร่วมงานที่บางครั้งจะมีการประเมินการทำงานร่วมกันภายในทีมด้วย
2. ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุม IPD / OPD
จริงอยู่ที่ว่าการเข้ารับบริการด้านสาธารณสุขนั้น พนักงานสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ แต่ต้องยอมรับว่าบางครั้งอาจไม่ได้ครอบคลุมเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้น อีกหนึ่งสวัสดิการบริษัทที่หลายคนให้ความสำคัญก็คือ สวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ประกันสุขภาพของพนักงาน ที่สามารถครอบคลุมได้ทั้งการเข้ารับบริการแบบ OPD และ IPD
โดยบางครั้งอาจพ่วงกับประกันอุบัติเหตุร่วมด้วย เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น และช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวพนักงานเอง ซึ่งการมีประกันสุขภาพนอกจากจะช่วยลดความกังวลของพนักงานเรื่องค่าใช้จ่ายได้แล้ว ยังช่วยให้พนักงานสามารถเลือกเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลได้ตามความต้องการ เพื่อความรวดเร็วในการรักษานั่นเอง
3. สวัสดิการทางการเงินสำหรับพนักงาน
สวัสดิการพนักงานอีกอย่างหนึ่งที่ดีและหลาย ๆ บริษัทควรมีก็คือ สวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการเงินของพนักงาน โดยเฉพาะการวางแผนทางการเงินและการออมเงินในระยะยาว เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่นับว่าเป็นวิธีการออมเงินเพื่ออนาคตของตัวพนักงานเอง ทั้งยังได้ผลตอบแทนกลับมาตามระยะเวลาการสมทบเงินเข้ากองทุนด้วยเช่นกัน เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งสวัสดิการดีดีที่นอกจากจะได้ใจพนักงานแล้ว ยังทำให้พนักงานอยู่กับบริษัทได้นานมากขึ้นเช่นกัน
4. ค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลในครอบครัว
บางครั้งการให้ความสำคัญต่อครอบครัวหรือบุคคลสำคัญของพนักงาน ก็เป็นเครื่องการันตีได้ถึงการให้ความใส่ใจต่อพนักงานในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการแสดงถึงน้ำใจและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ขององค์กร ซึ่งสวัสดิการบริษัทดังกล่าวนี้อาจจะมาในรูปแบบของการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เงินสนับสนุนค่าทำคลอด เงินช่วยเหลือในกรณีที่มีบุคคลในครอบครัวเสียชีวิต โดยที่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพ่อแม่เท่านั้น แต่สามารถรวมถึงบุคคลอื่น ๆ ในครอบครัวก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ บางบริษัทก็อาจจะมีวันลาพิเศษสำหรับเหตุที่ไม่คาดฝัน หรือเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นต่อครอบครัว เช่น หากมีสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต หรือป่วยเข้าโรงพยาบาล ก็สามารถลางานไปดูแลและจัดการธุระของทางบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงาน หรือการคงสถานะเป็นพนักงานขององค์กร เพราะมักมีกรณีที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ เมื่อพนักงานลางานหลายวันก็ทำให้ถูกเชิญออก ทั้งที่บางครั้งอาจเป็นการลาเพื่อไปดูแลครอบครัวที่ป่วย หรือการลาเพื่อไปจัดการงานศพที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
5. Flexible Hour และ Work Life Balance
บางครั้งการทำงานที่มีคุณภาพและได้ประสิทธิภาพที่ดี อาจไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานหน้าคอมตลอดเวลา เพราะการมี Work Life Balance ที่ดีก็ช่วยทำให้สุขภาพจิตของพนักงานดีตามไปด้วย ทำให้การทำงานไม่เครียดจนเกินไป แต่สามารถได้งานที่มีคุณภาพกลับมา ซึ่งในปัจจุบันนี้หลาย ๆ บริษัทก็ได้มีการปรับเวลาการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การทำงานแบบ Work from Anywhere, การให้สิทธิ์การทำงานแบบ Remote Work และการทำงานแบบ Hybrid ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมต่อองค์กรและตำแหน่งงานนั้น ๆ
แน่นอนว่า การทำงานในรูปแบบนี้ นอกจากจะทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นแล้ว ยังทำให้พนักงานมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ ไม่ต้องตื่นเช้าแล้วไปเผชิญกับรถติดในทุกวัน เพราะมลภาวะทางเสียงจากท้องถนน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้ว ก็ยังทำให้เกิดความเครียดสะสมอีกด้วย ดังนั้น การปรับการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ก็จะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุขอีกหนึ่งวิธี
6. Employee Support
สำหรับสวัสดิการพนักงานอย่าง Employee Support ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีดีที่จะทำให้พนักงานมีศักยภาพที่มากขึ้น ทั้งในการทำงานและคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การใช้อุปกรณ์ในการทำงานที่มีคุณภาพ, สวัสดิการเกี่ยวกับการเรียนภาษา และการเพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่การให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย การลงทุน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ ที่น่าสนใจเช่นกัน อาทิ ห้องสันทนาการ และบอร์ดเกม, ตั๋วเครื่องบิน, Fitness, กายภาพบำบัด และอาหารฟรีภายในองค์กร
7. วันหยุด วันลาพักร้อน และวันลาตามกฎหมาย
และอีกหนึ่งสวัสดิการบริษัทที่องค์กรไม่ควรมองข้ามก็คือ การมีวันหยุด วันลาพักร้อน และวันลาตามกฎหมาย ให้กับพนักงาน เช่น มีวันลาพักร้อนที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปีตามอายุงาน นอกจากนี้ วันลาอื่น ๆ ก็ควรเป็นไปตามกฎหมายเช่นกัน อาทิ วันลาตามกฎหมาย ทั้งสิทธิลาคลอด ลาป่วย และลาบวช ซึ่งสวัสดิการเหล่านี้ก็นับว่าเป็นสวัสดิการพนักงานขั้นพื้นฐานที่ควรมีในองค์กรยุคใหม่
ตอบโจทย์ทุกการบริหารงานในองค์กร ด้วยโปรแกรมบัญชี SMEMOVE
จะเห็นได้เลยว่าสวัสดิการบริษัทแต่ละอย่างนั้น ก็นับว่าเป็นสวัสดิการเจ๋ง ๆ ที่นอกจากจะทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อองค์กรและพนักงานเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในการบริหารงานภายในองค์กรนั้น ก็ย่อมมีรายละเอียดปลีกย่อยที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลและการจัดทำเอกสารทางธุรกิจภายในองค์กร เช่น การหักเงินสมทบกองทุนประกันสังคมจากเงินเดือน หรือแม้แต่การให้โบนัสสำหรับพนักงาน
เพราะฉะนั้น เพื่อให้ทุกธุรกิจของคุณดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น ไม่ติดปัญหาจุกจิก เพียงเลือกใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์วันนี้ ก็จะช่วยให้การบริหารงานในองค์กรง่ายมากขึ้น ทั้งการจัดทำเอกสารด้านการเงิน รวมถึงข้อมูลของฝ่ายบุคคล ที่สามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ ด้วยโปรแกรมบัญชีจาก SMEMOVE
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE