การสร้างแรงจูงใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งถือว่าสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือแม้กระทั่งการทำให้คนในครอบครัวเข้าใจและติดตามคุณให้ทันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการที่จะทำให้ความเข้าใจนั้นตรงกัน และสามารถทำให้สิ่งที่ต้องการก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง วันนี้เรามี 6 วิธี ในการสร้างแรงจูงใจมาฝากทุกคนกัน
1. ส่งเสริมจุดประสงค์
จุดประสงค์นั้นคือการสร้างแรงจูงใจที่แท้จริง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะสร้างแรงจูงใจให้ใครคุณจะต้องทำความเข้าใจจุดประสงค์ขององค์กรหรืองานนั้น ๆ ให้ได้ก่อน และโฟกัสไปที่ความเข้าใจที่แท้จริง โดยต้องสามารถสกัดมันออกมาให้ได้ สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำให้ได้ในการสร้างแรงจูงใจ คือคุณต้องเข้าใจในสิ่งที่คุณเองจะสร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่นก่อนว่าในที่สุดแล้วในเรื่องของงานที่คุณจะทำการจูงใจนั้น คุณต้องการผลลัพธ์แบบไหน ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจในจุดประสงค์ของมันแล้ว คุณเองก็พร้อมที่จะไปสร้างแรงจูงใจให้คนอื่นเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการได้
สำหรับในที่ทำงานมีงานวิจัยหนึ่งได้บอกเอาไว้ว่าเมื่อพนักงานมีความเข้าใจในงานที่คุณต้องการแล้ว 20% ของพนักงานเหล่านั้นจะอยากอยู่ทำงานกับคุณนานขึ้น ซึ่งใน 50% ของพนักงานกลุ่มนี้อยากที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ตำแหน่งผู้นำ ส่วนอีก 47% ของพนักงานกลุ่มนี้พร้อมที่จะส่งเสริมพนักงานคนอื่น ๆ ให้ได้รับรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขาเองได้รับถ่ายทอดมา และพนักงานอีก 64% ของกลุ่มนี้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการได้
วิธีการที่จะเข้าใจจุดประสงค์อย่างแท้จริงมีดังต่อไปนี้
- ตั้งมั่นกับสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง และถ้าหากคุณอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการ ควรพยายามสร้างความเข้าใจให้ตรงกับค่านิยมของวัฒนธรรมองค์กรของคุณด้วย
- ทำความเข้าใจจุดประสงค์ขององค์กรภายใต้วัฒนธรรมขององค์กร, KPI, การพัฒนาผลิตภัณฑ์, การจัดจำหน่าย, การจัดจ้าง และการตลาด
- เพิ่มความจริงและจุดประสงค์ที่น่าสนใจในแบรนด์ของคุณ
2. กระตือรือร้นในการฟังและไม่ลืมที่จะถามคำถามปลายเปิด
คุณเองคงเคยเห็นภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่มีการสร้างแรงจูงใจด้วยการพูดมาแล้ว หากสังเกตให้ดี ผู้พูดในภาพยนตร์นั้นรู้ว่าเขาเองจะต้องพูดอะไร และมีจุดประสงค์ที่ต้องการอย่างไรอยู่แล้ว ในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องพูดถึงขั้นนั้นเนื่องจากมันเป็นเพียงการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงานเท่านั้น สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำก็คือต้องเข้าใจความคิดและพฤติกรรมของพวกเขา สิ่งที่จำเป็นก็คือคุณเองต้องพยายามหาเป้าหมายและความฝันของคนที่คุณจะคุยด้วยให้ได้ และต้องพยายามหาวิธีที่เขาจะข้ามอุปสรรค์เพื่อไปถึงจุดมุ่งหมายนั้น
การที่คุณจะทำอย่างนั้นได้ คุณจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อพูดคุยกับพวกเขา และพยายามตั้งใจฟังเพื่อที่ว่าจะสามารถสกัดเอาสิ่งที่ต้องการของบุคคลนั้น ๆ ออกมาให้ได้ และเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้ คุณจำเป็นต้องถามคำถามปลายเปิด เพื่อให้เขาสามารถตอบได้อย่างคำถามดังต่อไปนี้
- เพราะเหตุใดคุณต้องการจะทำสิ่งนั้น
- สิ่งที่ทำให้คุณตื่นเต้นกับมันคืออะไร
- นานแค่ไหนแล้วที่คุณมีความฝันแบบนั้น
คุณสามารถใช้คำตอบของพวกเขามาช่วยในการเริ่มต้นในการสร้างแรงจูงใจผ่านการให้กำลังใจและชื่นชมเขา
3. สร้างแรงจูงใจชุดใหญ่ให้เขาได้รับฟัง เพื่อที่จะสามารถบอกให้เขาเข้าใจมากขึ้น
การสร้างแรงจูงใจที่ดีนั้นจะต้องกระทำแบบต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในรายการ The Biggest Loser คุณจะเห็นได้ว่าตลอดทั้งรายการจะมีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เข้าแข่งขันมีความรู้สึกตลอดเวลาว่าพวกเขานั้นสามารถทำสิ่งที่ต้องการให้ประสบความสำเร็จได้ การสร้างแรงจูงใจชุดใหญ่ดังกล่าวนี้จำเป็นต้องทำให้เขารู้สึกว่าเพื่อความสำเร็จแล้วพวกเขาจำเป็นต้องมีความพยายามอยู่ตลอดเวลา สิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้เอาไว้ก็คือการสร้างแรงจูงใจจะต้องไม่ใช่การออกคำสั่งในการจูงใจเนื่องจากว่าจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องคิดไว้เสมอในการสร้างแรงจูงใจก็คือ คุณจำเป็นต้องดูเวลาที่เหมาะสมด้วยว่าควรจะสร้างแรงจูงในช่วงเวลาไหนจึงจะดีที่สุด และเมื่อถึงเวลานั้นให้คุณพูดแรงจูงใจชุดใหญ่ เพื่อที่จะให้คนที่คุณต้องการสร้างแรงจูงใจมีกำลังใจในการก้าวไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นคง
4. ไม่ให้รางวัลเมื่อเขาทำสำเร็จ
การให้รางวัลเพื่อให้ผู้ที่คุณจูงใจสามารถทำสิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จนั้นไม่ได้ช่วยอะไร เหตุผลก็คือการให้รางวัลนั้นจะทำให้บุคคลที่คุณจูงใจแค่ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จเท่านั้น แต่เมื่อทำสำเร็จแล้ว บุคคลนั้น ๆ จะไม่กระทำสิ่งนั้นต่อเนื่อง เนื่องจากว่าบุคคลนั้นได้รางวัลที่คุณได้เสนอเอาไว้ไปแล้ว ดังนั้น คุณควรพยายามจูงใจให้เข้าทำสิ่งสิ่งหนึ่ง เพื่อที่เขาจะทำมันออกมาจากใจมากกว่ามีรางวัลมาล่อใจ
5. ควรให้ตัวเองมีสมรรถนะสูงสุด
การที่คุณจะสามารถสร้างแรงจูงใจให้ใครสักคนได้นั้น ตัวคุณเองต้องมีสมรรถนะมากพอก่อนที่จะสามารถจูงใจคนเหล่านั้นได้ ที่ต้องทำเช่นนี้เนื่องจากว่าหากคุณเองไม่ประสบความสำเร็จหรือมีสมรรถนะไม่มากพอและต่อเนื่อง บุคคลที่คุณจูงใจนั้นจะไม่เห็นตัวอย่างที่ดี และอาจจะไม่สามารถจูงใจให้ประสบความสำเร็จได้ สำหรับวิธีการทำให้ตัวคุณเองมีสรรถนะสูงสุดอยู่ตลอดเวลานั้น มีดังนี้
- ปรับปรุงอารมณ์ของคุณให้ดีอยู่เสมอ เช่น การฟังเพลง หรือเพลิดเพลินกับธรรมชาติ เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้สมองของคุณสามารถสร้างสารความสุข (โดปามีน) ได้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นจะทำให้ตัวคุณเองมีความพร้อมในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าเมื่อคุณมีความสุข คุณก็พร้อมที่จะสามารถสร้างแรงจูงใจให้บุคคนอื่น ๆ ได้
- พยายามจดช่วงเวลาในสัปดาห์ที่คุณเองมีความสุข และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขยายขีดความสามารถของคุณด้วยการทำงานภายใน 90 นาที ก่อนที่คุณจะพักสมอง
- แบ่งปันพลังงานดังกล่าวเหล่านั้นให้บุคคลที่อยู่รอบตัวคุณโดยไม่แบ่งแยก
- เข้าใจเป้าหมายของตัวคุณเองและของคนอื่น ๆ เพื่อที่คุณจะสามารถนำไปปรับแต่งให้เข้ากับตัวเองได้
6. แสดงความอ่อนแอของตัวคุณเองบ้าง
ทุกคนต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเอง ดังนั้น คุณควรที่จะพูดถึงความผิดพลาดของตัวคุณเองบ้าง เพราะมันจะช่วยให้คนที่คุณจะสร้างแรงจูงใจนั้นได้รับรู้ว่าตัวเองเองสามารถก้าวข้ามข้อผิดพลาดหรือความอ่อนแอของตัวเองได้เช่นเดียวกันกับคุณ เนื่องจากคุณเองสามารถก้าวข้ามผ่านความอ่อนแอของตัวเองได้
สุดท้ายมีสิ่งง่าย ๆ ที่จะจูงใจพนักงานที่ทำหน้าที่ด้านบัญชีได้ นั่นก็คือ การให้นักบัญชีทำเอกสารน้อยลงและรวดเร็วขึ้น โดยจะกระจายงานที่นักบัญชีต้องทำให้กับคนที่รับผิดชอบส่วนนั้นโดยตรง แต่เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมว่าหากคนที่รับผิดชอบไม่มีความรู้ด้านบัญชีจะทำได้อย่างไร เรามีทางออกให้ นั่นก็คือ โปรแกรมบัญชี SMEMOVE ที่ใช้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญราคาประหยัดอีกด้วย
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE
