ภาษีต้องห้ามที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ !

By posted on August 16, 2019 8:58PM

ภาษีต้องห้าม ที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ !

สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่หรือStartupที่มีความรู้ด้านสายบัญชีมาก่อน คงไม่ต้องสาธยายเรื่องภาษีต้องห้ามกันให้ยุ่งยาก แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการสายอื่นที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานสายบัญชีมาก่อนเลย หากพูดถึงเรื่องภาษีต้องห้าม คงต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ เอาเป็นว่าถือว่าทุกคนทีอ่านบทความนี้ไม่เคยรู้เรื่องบัญชีมาก่อนแล้วกัน จะเริ่มปูพื้นฐานง่ายๆกันก่อน

ภาษีซื้อต้องห้ามนั้นเป็นภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้ ง่ายๆก็คือเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนที่จ่ายไปแล้ว แต่ไม่มีสิทธิ์ขอคืนภาษีได้นั่นเอง

ปกติแล้วเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่าง ผู้ขายจะออกใบกำกับภาษีให้และจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)กับผู้ซื้อมาแล้ว นั่นคือผู้ซื้อได้ทำการเสียภาษีไปแล้วนั่นเอง ซึ่งสามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายไปแล้วเนี่ย(เรียกว่าภาษีซื้อ) ไปหักออกจากภาษีขายคือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ในมุมเราเป็นผู้ประกอบการได้ออกใบกำกับภาษีเมื่อมีคนมาซื้อสินค้าหรือรับบริการ(ภาษีขาย) หากไม่มีภาษีซื้อเราจะต้องนำเอาภาษีขายทั้งหมดส่งสรรพากรไป เช่น ถ้าเก็บภาษีขายไว้ 10,000 บาทก็จะต้องส่งภาษีครบทั้ง 10,000 บาทให้กับกรมสรรพากร แต่หากมีภาษีซื้อก็จะนำมาหักออกจากภาษีขายก่อนแล้วจึงนำส่วนต่างส่งให้สรรพากรไป ก็เหมือนกับได้การได้คืนภาษีในส่วนที่จ่ายไปตอนซื้อสินค้ามาใช้ในกิจการ

เมื่อเป็นแบบนี้ดูเหมือนทุกคนจะตาโตว่า งั้นก็ซื้อสินค้าหรือบริการเยอะๆสิ จะได้ขอภาษีคืนได้จำนวนมาก เพราะคิดกันแบบนี้ไง จึงมีคำว่าภาษีต้องห้ามเกิดขึ้น เพื่อกำหนดว่าค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง ที่สามารถนำมาหักภาษีขายได้ และค่าใช้จ่ายแบบไหนที่ไม่สามารถนำมาหักได้

ภาษีซื้อแบบไหนที่ไม่สามารถนำมาหักภาษีขายได้

  1. ไม่มีใบกำกับภาษี หรือไม่อาจแสดงใบกำกับภาษีได้ ค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่ออกใบกำกับภาษี การที่ไม่มีใบกำกับภาษีนั้นจะไม่สามารถนำมาเป็นภาษีซื้อได้ เพราะไม่รู้ว่าผู้ขายเป็นใครผู้ซื้อเป็นใครและมีรายการซื้ออะไร
  2. ใบกำกับภาษีซื้อมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด ใบกำกับภาษีที่ไม่เป็นไปตามกำหนดของกฎหมาย มีข้อความไม่ครบถ้วน หรือมีข้อความไม่ถูกต้อง ก็ไม่สามารถใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ ทางที่ดีนั้นคือควรตรวจสอบใบกำกับภาษีให้ดีทุกครั้งที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการ
  3. ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลเพิ่ม แม้การซื้อสินค้าหรือรับบริการจะมีใบกำกับภาษีที่ถูกต้องและครบถ้วน แต่หากเป็นรายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ เช่นค่านมผง ค่าแพมเพิส ค่าขวดนม เป็นต้น ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลยกับกิจการค้าขายพลาสติกที่ทำอยู่นั้น ก็จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นภาษีซื้อได้เช่นกัน
  4. รายจ่ายเพื่อการรับรอง ค่ารับรองหรือค่าบริการหรือค่าให้ความอำนวยความสะดวกให้กับบุคคลหรือแขกของกิจการ เป็นต้นว่า ค่าอาหาร ค่ารถ ค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเพื่อการกีฬา ค่าของขวัญ ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถนำมาใช้เป็นภาษีซื้อเพื่อขอคืนภาษีได้
  5. การซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่ออกใบกำกับภาษีโดยผู้ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี ผู้ที่ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีได้แก่ บุคคลที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่นอกราชอาณาจักรแต่มีตัวแทนออกแทนในนามผู้ประกอบการ หรือผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ทรัพย์สินถูกนำออกมาขายทอดตลาด หากซื้อสินค้าหรือบริการจากบุคคลหรือผู้ประกอบการที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะได้ใบกำกับภาษีมา แต่ก็ไม่สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้
  6. ภาษีซื้อทีเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรว่าไม่สามารถนำมาหักภาษีขายได้ ได้แก่
    • ค่าใช้จ่ายจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์ รวมถึงซื้อสินค้าและรับบริการเกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน
    • การซื้อสินค้าหรือรับบริการตามใบกำกับภาษีอย่างย่อ
    • การซื้อสินค้าเพื่อใช้เอง
    • ภาษีซื้อที่จากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์ แต่ได้นำอาคารนั้นไปขายหรือให้เช่าในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ถือว่าเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
    • และยังมีรายละเอียดภาษีซื้อต้องห้ามอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://download.rd.go.th/fileadmin/download/insight_pasi/PasiBan.pdf

บทความนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการมือใหม่มีความรู้การลงบัญชีค่าใช้จ่ายภาษีซื้อเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำมาใช้เลือกซื้อสินค้าและรับบริการได้ สร้างความรอบคอบให้กับผู้ประกอบการในการหมั่นตรวจสอบใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง และเลือกลงค่าใช้จ่ายไม่ต้องห้ามมาหักภาษีขายได้

แม้ว่าภาษีนั้นจะยุ่งยากซับซ้อนแค่ไหน แต่เรามีทางออกให้คุณ โดยโปรแกรมบัญชี SMEMOVE จะบันทึกบัญชีได้อัตโนมัติ และทำให้ข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง เพื่อนำไปทำภาษีส่งได้อย่างถูกต้องด้วยนั่นเอง สามารถทดลองใช้งานฟรีตามลิงก์ด้านล่างได้เลย

ทดลองใช้ฟรีได้ที่:SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน:HELP

ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่

บทความบัญชี: smemove.com/blog

Facebook: Facebook.com/smemove.th

Youtube: SMEMOVE