สำหรับในสัปดาห์ที่ 3 ของการเรียนรู้นั้นจะเป็นการพูดถึงการหักล้างสิ่งที่คิดว่าจะสามารถขายได้อยู่ตลอดเวลาเนื่องจากมีความต้องการของผู้ใช้จำนวนมาก รวมถึงการแนะนำแนวคิดการตลาดแบบดิจิทัลอย่าง SEO และ SEM พร้อมด้วยการยกตัวอย่างเครื่องมือสำหรับการกำหนดเป้าหมายใหม่เพื่อที่จะขยายฐานผู้บริโภค สาระสำคัญจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย
1. มันไม่มีทางลัดสำหรับการเติบโตของธุรกิจ
โดย SHEJI HO ผู้ดำรงตำแหน่ง GROUP CMO ของ ACOMMERCE
เริ่มต้นเลยโดยคุณ Sheji ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงแรกของการเรียนรู้ว่าหลักการทำการตลาดดิจิทัลนั้น คือการถามตัวบริษัทเองว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวนี้ต้องทำก่อนที่จะดำเนินการอย่างอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าซื้อพื้นที่โฆษณาผ่านผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์สินค้ารายใหญ่ เช่น Google และ Facebook เป็นต้น โดยทางคุณ Sheji ได้ยกตัวอย่างบริษัทที่พลาดท่าในเรื่องดังกล่าวนี้ออกมาดังต่อไปนี้
- ofo – ผู้บริการให้เช่ารถจักรยานที่ดูจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไรนักกับการให้บริการเช่ารถจักรยานในกรุงเทพฯ ซึ่งมีรายงานว่าเป็นเมืองหลวงที่มีความอันตรายในการใช้รถใช้ถนนเป็นอันดับที่ 2 ของโลก
- Seekster – ผู้ให้บริการทำความสะอาดบ้านตามความต้องการ (ผ่านผู้ให้บริการรายเล็กอีกที) ซึ่งเปิดให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก และต้องพบกับความปั่นป่วนของอัตราการเติบโตของธุรกิจ เมื่อผู้บริโภคพบกับผู้ใช้บริการรายย่อยแล้วก็หันมาใช้การสั่งการแบบออฟไลน์มากกว่าค้นหาบริการผ่านทาง Seekster
- Blue Apron – ผู้ให้บริการจัดจำหน่ายชุดทำอาหารแบบส่งตรงถึงบ้านที่เมื่อผู้ใช้บริการได้รับส่วนผสมที่ส่งมาให้แล้ว ครั้งต่อ ๆ ไปผู้บริโภคก็เลือกที่จะทำการซื้อส่วนผสมของอาหารต่าง ๆ นั้นเองมากกว่า
แน่นอนว่าการมองผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ออกว่าเป็นที่ต้องการของตลาดและต้องการในระยะยาวหรือไม่นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง ในจุดนี้คุณจำเป็นต้องพิจารณาผลิตภัณฑ์ของคุณให้ถ่องแท้ก่อนว่าเหมาะกับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบออนไลน์หรือไม่ คุณสามารถลองตลาดได้ แต่อย่าลงทุนมากมายไปจนหมดตัวกับการใช้เงินทุนที่ไม่ได้รับผลตอบแทน
2. SEO (Search Engine Optimization) Google เท่านั้นที่คุณต้องการสำหรับเมืองไทย
โดย KORAVUT PAVITPOK ผู้ดำรงตำแหน่ง HEAD OF GROWTH MARKETING ของ ACOMMERCE
ถ้าคุณมั่นใจว่าสินค้าของคุณเป็นที่ต้องการของตลาดที่สามารถขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ สิ่งต่อมาที่คุณจำเป็นต้องคิดก็คือเรื่องของการโฆษณาผ่าน Search Engine ต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์ของคุณได้มากที่สุด สำหรับในเมืองไทยเราคงจะหนีไม่พ้น Google ที่มีส่วนแบ่งในตลาด Search Engine มากกว่า 99% ในเมืองไทย ทาง Google นั้นสามารถเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ผ่านทาง SEO (Search Engine Optimization) พร้อมทั้งยังมีเครื่องมืออย่าง SEM (Search Engine Marketing) ให้คุณอีก เพื่อที่จะเอาไว้ใช้ปรับกลยุทธ์ในการกำหนดเป้าหมายใหม่
ด้วยปัจจัย 2 อย่าง คือ Search Volume และ Intent นั้น บริษัทของคุณจะสามารถกำหนดคำหลักเพื่อใช้ในการค้นหาผู้บริโภคได้ตรงกับเป้าหมายของผลิตภัณฑ์คุณ อย่างเช่น UNIQLO ดังที่ได้แสดงไว้บนรูปภาพข้างต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้ผู้บริโภคจะค้นหาด้วยคำค้นหาว่า Jeans และ Buy Jeans ก็ยังคงครอบคลุมการค้นหาที่จะมี UNIQLO ขึ้นมาในการค้นหาด้วยมากถึง 60%
ที่มา : eIQ Insights
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE