วิธีทำ Payroll เงินเดือน ให้มีข้อมูลครบถ้วน สำหรับ HR มือฉมัง

By posted on December 18, 2025 10:13AM
วิธีทำ Payroll เงินเดือน ให้มีข้อมูลครบถ้วน สำหรับ HR มือฉมัง

สำหรับการทำ Payroll หรือการทำเงินเดือนให้กับพนักงานในแต่ละเดือนนั้น นับว่ามีความสำคัญมาก ๆ ของเหล่า HR เพราะหากวางระบบไม่ดี จัดการช้า ก็อาจจะทำให้ปวดหัวได้ในการทำเงินเดือนทุกครั้ง ซึ่งการทำเงินเดือนที่ดีต้องมีการวางระบบจ่ายเงินเดือนพนักงานให้เป็นระบบ เพียงเท่านี้ก็ทำให้การทำเงินเดือนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แม้เป็น HR มือใหม่ก็ทำ Payroll ให้เป๊ะได้

รู้จัก Payroll ระบบเงินเดือนที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่

รู้จัก Payroll ระบบเงินเดือนที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่

Payroll หรือ ระบบบัญชีเงินเดือน เป็นการทำเงินเดือนที่รวบรวมทุกข้อมูลเอาไว้อย่างครบถ้วน เพื่อจ่ายเงินตอบแทนให้กับพนักงานในเดือนนั้น ๆ โดยการทำ Payroll ที่ดี ต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน เป็นระเบียบ และมีความถูกต้อง โดยการจ่ายเงินเดือนที่ใช้ระบบ Payroll จะจ่ายให้แบบอัตโนมัติด้วยบริการจากธนาคารเท่านั้น

เรียกง่าย ๆ ก็คือ เป็นเอกสารเงินเดือนที่มีข้อมูลของพนักงานที่มีมากกว่าเงินเดือน เพราะจะรวบรวมเอาไว้ทั้งฐานเงินเดือน, ค่าคอม, โบนัส, ค่าเดินทาง, ค่าโทรศัพท์มือถือ และรายการหักของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, ประกันสังคม, เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ. และ กรอ.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)

การทำ Payroll หรือระบบเงินเดือนของ SMEMOVE

ข้อมูลของ Payroll ในการทำเงินเดือนที่ควรมี

สำหรับองค์ประกอบของการทำ Payroll นั้น โดยปกติแล้วเราจะแยกข้อมูลออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ การบันทึกเวลาการทำงานของพนักงานแต่ละคน ด้วยระบบ HR ที่ครอบคลุมทั้งการเข้าและออกงาน การขาดงาน ลา มาสาย ฯลฯ และอีกกลุ่มคือ ข้อมูลการจ่ายและการหักเงินพักงานตามที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น ซึ่งเราจะมาเจาะลึกกันว่า องค์ประกอบที่สำคัญของพนักงานแต่ละคนใน Payroll เงินเดือนนั้น ควรจะมีอะไรบ้าง

1. ฐานเงินเดือน (Base Salary)

โดยเป็นเงินเดือนพื้นฐานของพนักงานที่ได้รับตามสัญญาจ้าง โดยทางบริษัทจะเป็นผู้กำหนดให้ตามตำแหน่งของพนักงานคนนั้น ๆ ซึ่งฐานเงินเดือนของพนักงานจะต้องมีการกำหนดให้สอดคล้องกับองค์กรด้วย โดยทาง HR จะต้องเป็นคนกำหนดฐานเงินเดือนโดยอ้างอิงจากตลาดแรงงาน ซึ่งอาจจะมีการปรับฐานเงินเดือนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

ดังนั้น HR ต้องประเมินให้ดีว่าควรกำหนดฐานเงินเดือนของพนักงานในแต่ละตำแหน่งไว้ที่เท่าไหร่ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน เช่น หากเข้ามาเป็นพนักงานในปีแรกแล้วทำผลงานได้ดี ก็สามารถเติบโตในสายงาน หรือ Career Path ได้ โดยที่ได้รับค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับความพยายามของพนักงาน และเมื่อพนักงานได้เงินที่เหมาะสมกับเนื้องานที่ได้รับ ก็จะทำให้อยากทำงานในบริษัทนาน ๆ ด้วยเช่นกัน

“คนที่เป็น HR ที่ดีได้ ไม่ใช่แค่เก่งเรื่องบริหารงานบุคคล แต่ต้องรู้วิธีรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กรได้ยาวนาน และต้องมีการวางแผนการทำงาน ที่ช่วยลดการลาออกของพนักงานให้ได้ด้วย”

การทำ Payroll เงินเดือนพนักงานของ HR

2. โบนัส

การจ่ายโบนัสให้กับพนักงานถือเป็นค่าตอบแทนเพิ่มเติมที่ทางบริษัทมอบให้กับพนักงาน ที่ทำผลงานได้ดีและทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยหลาย ๆ บริษัทจะนิยมการให้โบนัสประจำปี โดยจะยึดตามผลประกอบการของบริษัทเป็นหลัก แต่ในบางบริษัทก็อาจจะมีการปรับให้โบนัสเป็นรอบ ๆ ไป อย่างเช่น การให้โบนัสตาม Quarter หรือตามรายไตรมาส

เพราะฉะนั้น หน้าที่ของ HR นอกจากการวางนโยบายเรื่องการจ่ายโบนัสแล้ว ยังต้องทำข้อตกลงให้ชัดเจนกับทางพนักงานด้วยเช่นกัน และโดยปกติแล้วการออก Payroll จะมีการใส่โบนัสเอาไว้ในทุก ๆ เดือน ถึงแม้ว่าจะไม่มีโบนัสในเดือนนั้น ๆ แต่ก็สามารถทำเป็น Pattern ได้

3. ค่าล่วงเวลา หรือ OT

ค่าล่วงเวลา หรือการจ่าย OT (Overtime Pay) เป็นมาตรฐานที่นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้กับพนักงานตามกฎหมายแรงงาน โดยตามกฎหมายจะมีการกำหนดอย่างชัดเจน ว่าในการทำงานล่วงเวลาแต่ละแบบต้องจ่ายเงินให้กับพนักงานเท่าไหร่ และพนักงานแต่ละกลุ่มต้องจ่ายในอัตราเท่าไหร่บ้าง

โดยการคำนวณค่าล่วงเวลาให้กับพนักงานที่ทำ OT ต้องมีความโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นธรรมกับตัวพนักงานด้วย เพราะในบางตำแหน่งก็ต้องทำโอทีบ่อยครั้ง เนื่องจากปริมาณงานที่ล้นมือ มีพนักงานในตำแหน่งนั้น ๆ น้อยกว่าสโคปงาน จึงส่งผลให้พนักงานที่ทำงานในส่วนนั้นต้องทำโอทีเพิ่ม

เพราะฉะนั้น การคำนวณค่า OT ของพนักงาน จะต้องมีความแม่นยำและไม่ผิดพลาด เพราะหากพลาดอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งในบางกรณีก็อาจจะถึงขั้นที่พนักงานร้องเรียนไปยังกรมแรงงานได้เช่นกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ดี HR จะต้องเลือกใช้โปรแกรมหรือ HR Payroll Solution ที่เหมาะสม เพื่อลดความผิดพลาดของการคำนวณ​ OT

การทำ Payroll สำหรับเงินเดือนพนักงาน

4. ค่าคอมมิชชัน

การคำนวณค่าคอมมิชชัน (Commission) จะแตกต่างจากการคำนวณค่าล่วงเวลาหรือ OT เพราะเป็นค่าตอบแทนพิเศษที่พนักงานจะได้รับเพิ่มเติมจากฐานเงินเดือนที่มี โดยปกติแล้วพนักงานที่จะได้รับค่าคอม จะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงานขาย โดยเฉพาะตำแหน่ง Sale ที่จะต้องหารายได้เข้าองค์กรจากการหาลูกค้า และการให้ค่าคอมก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดของทางบริษัท

โดยการให้ค่าคอมของบริษัท ส่วนมากแล้วจะนิยมให้เป็นขั้นบันได เพื่อให้พนักงานที่มีความกระตือรือร้นในการหาลูกค้าและทำให้บริษัทมีรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งทาง HR อาจจะต้องเป็นผู้กำหนดโครงสร้างค่า Commission ให้กับพนักงานในองค์กรอย่างชัดเจน มีความโปร่งใส และต้องเป็นธรรม โดยบางบริษัทก็อาจจะมีค่าตอบแทนพิเศษอย่าง Management Free ให้กับหัวหน้าทีมขายด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนและเป็นสินน้ำใจให้กับหัวหน้าทีมที่สามารถบริหารทีมให้เติบโตและสร้างยอดขายได้สูง เป็นต้น

5. รายรับอื่น ๆ ของพนักงาน

นอกเหนือจากฐานเงินเดือน โบนัส ค่าคอม และค่า OT ที่ต้องมีระบุใน Payroll แล้ว รายรับอื่น ๆ ของพนักงานก็ควรระบุเอาไว้อย่างครบถ้วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • เงินพิเศษที่บริษัทจ่ายให้เกี่ยวกับการเดินทาง อาทิ ค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ฯลฯ
  • ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟ เช่น บริษัทที่ให้พนักงานทำงานแบบ Work from Home แล้วมีสวัสดิการช่วยเหลือค่าไฟและค่าอินเทอร์เน็ต
  • เบี้ยเลี้ยงอื่น ๆ อาทิ ค่าอาหารหรือค่ากาแฟ โดยบางบริษัทในปัจจุบันนี้ก็มีเงินสนับสนุนค่าอาหารให้กับพนักงานด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพนักงาน เป็นต้น

เพราะฉะนั้น การให้สวัสดิการกับพนักงานที่หลากหลาย ก็จะช่วยทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานได้มากขึ้น และเต็มที่กับงานเช่นกัน เพราะพนักงานก็จะมองว่าบริษัทให้ความสำคัญกับตนเอง ซึ่งในการทำ Payroll หากมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ต้องระบุเอาไว้ด้วยเช่นกัน

6. รายการหักของพนักงาน

โดยปกติแล้วรายการหักค่าใช้จ่ายของพนักงาน นอกเหนือจากประกันสังคมแล้ว ยังมีรายการหักอื่น ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน, ประกันสังคม และกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา อาทิ กยศ. และ กรอ. นอกจากนี้ หากพนักงานคนไหนที่มีการลาโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave Without Pay) ก็ควรมีระบุใน Payroll เช่นกัน

ใช้โปรแกรม HR Payroll Solution ครบวงจรที่ SMEMOVE

ใช้โปรแกรม HR Payroll Solution ครบวงจรที่ SMEMOVE

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานโปรแกรม HR Payroll ที่มีความแม่นยำในการทำเงินเดือน มีมาตรฐาน และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ด้วยการออกแบบระบบจ่ายเงินเดือนพนักงานที่มีความครอบคลุม และมีข้อมูลต่าง ๆ ที่ครบถ้วน สามารถคำนวณเงินเดือนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ถูกต้อง สามารถเลือกใช้โปรแกรม HR Payroll ของทาง SMEMOVE ได้แล้ววันนี้ ด้วยแพ็กเกจสุดคุ้ม เริ่มต้นเพียง 199 บาท/เดือนเท่านั้น มีโปรแกรมเดียวก็สามารถจัดการงานบุคคลและงานบัญชีได้ในที่เดียว โดยไม่ต้องจ่ายหลายโปรแกรมให้สิ้นเปลืองอีกต่อไป

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP

ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่

บทความบัญชี: smemove.com/blog

Facebook: Facebook.com/smemove.th

Youtube: SMEMOVE