ในปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจอาจพูดได้ว่าเราได้เข้าสู่ยุค Digital Transformation แล้ว ดังนั้นหลายๆ บริษัทหรือกิจการจึงจำเป็นจะต้องทำการปรับแบบจำลองธุรกิจ (Business Model) สู่การเป็นองค์กรดิจิทัลให้ทันโลก มุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัลที่กลายมาเป็นหัวใจหลักในการทำธุรกิจ
ซึ่งในปัจจุบันก็มีธุรกิจมากมายที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าสู่ยุค Digital Transformation แล้วไม่ว่าจะเป็นนิตยสารแพรวที่ส่ง Celeb Blog จนดังเป็นพลุแตกด้วย สู่ขวัญ บูลกุล ที่หันมาทำ content วิดีโอร่วมกับนิตยสารแพรว หรือจะเป็นการใช้ Line Beacon โดยโรงพยาบาลสมิติเวชเพื่อสร้างความประทับใจครั้งใหม่ในการใช้บริการ สำหรับใครที่สนใจจะนำธุรกิจของตัวเองก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation วันนี้ SMEMOVE ก็ได้นำ 5 แบบจำลองธุรกิจ (Business Model) สุดแปลกใหม่ในยุค Digital Transformation ที่น่าสนใจมาฝากทุกคน
1. ลดราคาก่อน เก็บกำไรทีหลัง
การลดราคาก่อน แล้วค่อยมาเก็บกำไรทีหลังเป็นหนึ่งในเทรนด์การตลาดที่ Amazon ได้นำมาใช้ด้วยการจู่โจมตลาด และลูกค้าจากการขายสินค้าในราคาที่ต่ำสุด หลังทำการเจรจาร่วมกับคู่ค้าซัพพลายเออร์ลงทุน และไม่ลืมดูแลการจัดส่งให้รวดเร็ว และบริการที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นแม่เหล็กสำคัญในการชิงส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
2. นำเสนอสินค้าในราคาขายที่แพงที่สุด
ถึงแม้ว่าสินค้าของคุณจะแพงมากกว่าใคร แต่ก็มีคนยอมจ่ายแน่ๆ เมื่อสินค้านั้นเป็นสินค้าที่ทุกคนต้องการ แต่ไม่มีใครสามารถให้ได้ และเป็นนวัตกรรมที่เหนือระดับ เรื่องนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงเพราะ Alexion Pharmaceuticals สามารถสร้างรายได้เกือบครึ่งล้านเหรียญต่อปี เพียงจำหน่ายสินค้าราคาแพงอย่างยาราคารักษาโรค และนวัตกรรมอื่นๆ ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อบำบัดโรคต่างๆ
3. เติมเต็มความสะดวกสบาย ด้วยความล้ำสมัย
อีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจที่มีเรื่องของระบบ AI เข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอนาคตของระบบรถยนต์ที่จะไร้คนขับที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ ในปัจจุบัน เพราะล่าสุดรถยนต์ไร้คนขับของ Google ได้ถูกทำการทดสอบการทำงาน โดยวิ่งไปบนถนนแล้วกว่า 1.5 ล้านไมล์ หรือจะเป็นร้านค้าที่ไร้แคชเชียร์ก็เป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ
อย่างที่อีคอมเมิร์ซเจ้ายักษ์ใหญ่ Amazon ได้นำมาทำให้เกิดขึ้นจริง ด้วยการทำร้านค้าไร้แคชเชียร์ ที่จะผนวกทุกอย่างที่มีเข้าด้วยกัน ให้เกิดการทำงานที่สมูทไร้ที่ติ ตั้งแต่ระบบแอปพลิเคชัน ระบบจ่ายเงิน ระบบร้านค้า และอื่นๆ ของอเมซอน นั่นทำให้ทั้งโลกต้องหันมาปรับตัวกันยกใหญ่อีกครั้ง
4. ทดลองใช้ก่อน หากพอใจค่อยซื้อ
สำหรับคุณผู้หญิงบางคนที่ต้องการซื้อเครื่องสำอางใหม่ๆ มักรู้สึกไม่มั่นใจว่าเครื่องสำอางที่จะซื้อนั้นจะเข้ากับผิวหน้าของตัวเองได้หรือไม่ จึงทำให้การตัดสินใจซื้อนั้นยากเพราะไม่กล้ากลัวผิวจะพัง ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับการทำ Business Model สำหรับการขายเครื่องสำอางออนไลน์ ที่หันส่งสินค้าให้เทสก่อน ถ้าชอบก็ค่อยกลับมาซื้อ
ซึ่ง Birchbox อีคอมเมิร์ซแหวกแนวก็ได้เริ่มทำตามแนวคิดนี้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการส่งกล่องสินค้าไปที่บ้านของสมาชิก เพียงสมาชิกกรอกข้อมูลสำคัญของตัวเองลงไปก่อนไม่ว่าจะเป็นสภาพผิว สีผม การแต่งตัว สไตล์การแต่งหน้า และอื่นๆ เพื่อให้ทาง Birchbox นำข้อมูลไปเฟ้นหาสินค้าที่เหมาะกับสมาชิก และส่งไปให้ทดลองใช้เดือนละ 4 – 5 ชิ้น
หากถูกใจก็กลับมาซื้อ หรือไปคอมเมนต์บอกผลการใช้งาน เพื่อรับแต้มพิเศษในการแลกสินค้าขนาดปกติ โดยแนวคิดดังกล่าวเกิดจาก Hayley Barna และ Katia Beauchamp สองสาวพนักงานออฟฟิศที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา
5. เข้าถึง และเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง
สำหรับ Business Model สุดท้ายนี้ ขอยกตัวอย่างธุรกิจ Hukkster ที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าตั้งแต่เปิดเข้ามาหน้าเว็บไซต์ โดยมีแนวคิดในการทำธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหาคู่รัก อาจจะไม่แปลกจากธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ทั่วไปแต่ Hukkster นั้นมีผู้ติดตามติดตามโปรโมทชั่นใหม่ ๆ อยู่ทุกวันผ่านอีเมล และการแจ้งเตือนผ่านมือถือ แม้จะเป็นเว็บไซต์ขายของ แต่ Hukkster ก็ยังมีรายได้หลักอีกทางจากพาร์ทเนอร์ที่ยินดีจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับปรับแต่งอีเมลการแจ้งเตือนที่จะทำให้การขายดีกว่าเดิม
และนี่ก็เป็น 5 แบบจำลองธุรกิจ (Business Model) สุดแปลกใหม่ยุค Digital Transformation ที่ SMEMOVE ได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ หากธุรกิจใดสนใจก็อย่าลืมนำไปปรับเปลี่ยน หรือนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองกันด้วยนะคะ เพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจในยุค Digital Transformation
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE