ทำนายหน้า TikTok, Shopee และ Lazada ทำ Affiliate ยื่นภาษียังไง?

อาชีพที่หาเงินได้ในอากาศในตอนนี้ และเป็นหนึ่งในอาชีพยอดฮิตของคนเล่น Social Media ก็คงหนีไม่พ้น “การทำนายหน้า” หรือ “ทำ Affiliate” ที่ในปัจจุบันนี้มีหลายแพลตฟอร์มให้ทำ ทั้งการทำนายหน้า Shopee, การทำนายหน้า TikTok รวมถึงแอปยอดฮิตอย่าง Lazada นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งการมีรายได้จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ ก็ต้องยื่นภาษีให้ครบถ้วนด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าการยื่นภาษีเมื่อทำนายหน้า Affiliate ต้องทำยังไง แล้วมีวิธียื่นภาษียังไงบ้าง?

ทำนายหน้า TikTok, Shopee และ Lazada คืออะไร?

การทำนายหน้า Affiliate หรือ Affiliate Marketing ก็คือการทำนายออนไลน์ ที่สามารถสร้างรายได้ผ่านทาง Social Media หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้โดยแทบไม่ต้องลงทุนเยอะ ก็สามารถมีรายได้เสริมแบบง่าย ๆ ชนิดที่ว่าบางคนสร้างรายได้หลักแสนไปจนถึงหลักล้านต่อเดือน จนขึ้นแท่นเป็นการสร้างรายได้แบบจับเสือมือเปล่ากันเลยทีเดียว

โดยการทำ Affiliate Marketing มีหลักการง่าย ๆ คือ การนำลิงก์สินค้าที่สนใจมาโปรโมตผ่านช่องทาง Social Media ของตนเอง เช่น การทำคลิปรีวิวสินค้า หรือการโพสต์ภาพต่าง ๆ พร้อมแปะพิกัดลิงก์ Affiliate ไปยังสินค้าในแพลตฟอร์มที่มีจำหน่าย โดยรายได้ของผู้ที่ทำนายหน้า จะได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์หรือตามราคาของสินค้านั้น ๆ ที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งบางคนก็อาจโพสต์จาก Facebook แล้วลิงก์ไปยัง Shopee หรือ TikTok บางคนก็อาจโปรโมตผ่าน TikTok แล้วลิงก์ไปยังตะกร้าสินค้าภายในแอปฯ ก็ได้เช่นกัน

อย่างเช่น การทำนายหน้า Shopee Affiliate จะมีรายได้ทั้งการแชร์ลิงก์แบบทั่ว ๆ ไป และการรับค่าคอมพิเศษจากสินค้าที่มีสัญลักษณ์ Extra Comm ซึ่งเป็นการเปิดค่าคอมพิเศษให้กับผู้ที่สนใจนำสินค้าไปโปรโมต ที่ทางร้านเปิดให้ผ่านทางระบบหลังบ้าน และถึงแม้ว่าบางร้านไม่ได้เปิดค่าคอมมิชชันแบบ Extra Comm ให้ แต่ผู้ที่นำสินค้านั้นไปโปรโมตก็จะได้รับค่าคอมเช่นเดิม แต่ได้ในอัตราที่น้อยกว่า เป็นต้น

ซึ่งข้อดีของการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing ที่เป็นที่นิยมในตอนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าได้ผลประโยชน์ทั้งฝั่งนายหน้าและผู้ขาย เพราะผู้ขายไม่จำเป็นต้องลงทุนโปรโมตสินค้าด้วยการลงเงินกับงบการตลาดก็สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น เพียงแค่นำสินค้าที่มีไปวางขายตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ เท่านั้น

เช่นเดียวกับผู้ที่ทำนายหน้าออนไลน์ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ ด้วยการนำสินค้าที่สนใจไปโปรโมตในแพลตฟอร์มของตนเอง ซึ่งบางคนที่มีสินค้าอยู่ในมือก็สามารถทำรีวิวสินค้าหลาย ๆ รอบได้ และหากคอนเทนต์ที่ทำได้รับความนิยม ก็ทำให้มีคนซื้อสินค้าตามมากขึ้น และยังได้รับค่าคอมที่เพิ่มตามคำสั่งซื้อเช่นกัน

ทำนายหน้าออนไลน์ ต้องยื่นภาษีทุกคนหรือไม่?

ด้วยความนิยมของการทำ Affiliate Marketing หรือนายหน้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้กลายเป็นหนึ่งในอาชีพยอดฮิตของคนไทยหลาย ๆ คน ทั้งคนที่มีงานประจำอยู่แล้ว หรือคนที่ผันตัวเองมาทำนายหน้าออนไลน์อย่างจริงจัง ซึ่งการมีรายได้จากการทำ Affiliate ถึงแม้จะเป็นเพียงค่าคอมจากการทำลิงก์ขายสินค้า แต่ก็ถือว่าเป็น “รายได้” ตามกฎหมาย

เพราะฉะนั้น หน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีรายได้ ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งการยื่นภาษีนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเสียภาษีทุกคนเสมอไป เพราะสุดท้ายแล้วจะต้องไปคำนวณรวมกับรายได้จากช่องทางอื่น ๆ รวมถึงการหักลบจากค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนภาษี ก่อนที่จะนำไปคำนวณหาภาษีจริง ดังนั้น ไม่ว่าจะมีรายได้จากการทำนายหน้ามากน้อยแค่ไหนก็ต้องยื่นภาษีทุกคน

การยื่นภาษีเมื่อมีรายได้จากการทำนายหน้าออนไลน์   

การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการทำนายหน้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการทำ นายหน้า TikTok, นายหน้า Shopee และ Lazada แล้วมีรายได้จากแพลตฟอร์ม ต้องนำรายได้ทั้งหมดมายื่นภาษี โดยรายได้ดังกล่าวจะถูกจัดเป็นเงินได้ 40(2) แต่หากเป็นผู้ที่ขายออนไลน์ร่วมด้วย จะจัดเป็นเงินได้ 40(8)

โดยการยื่นภาษีจะมีความแตกต่างกัน คือ หากมีรายได้จากการทำเฉพาะนายหน้าออนไลน์ จะยื่นภาษีตามรอบปีภาษี ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ของปีถัดไป เช่น เริ่มทำนายหน้าออนไลน์ เดือนเมษายน 2568 และมีรายได้ในปีนี้ ต้องนำไปยื่นในช่วงต้นปี 2569 ตามเวลาดังกล่าว แต่หากขายของออนไลน์ร่วมด้วย จะต้องยื่นภาษีครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.94 ด้วยทุกปี

วิธีคำนวณภาษีสำหรับนายหน้าออนไลน์ ทำ Affiliate

การคำนวณภาษีสำหรับผู้ที่ทำนายหน้าออนไลน์ ทั้งผู้ที่ทำเป็นรายได้เสริมจากงานประจำ หรือผู้ที่ทำเป็นอาชีพแบบ 100% จะมีวิธีการคำนวณเหมือนกัน คือ

• (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องชำระ
• หรือหาเงินได้สุทธิ = รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน แล้วนำมาคูณกับอัตราภาษีก็ได้เช่นกัน

ซึ่งหลักการในการคำนวณจะเหมือน ๆ กัน คือ การนำเอารายได้ทั้งหมด มาลบกับค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนที่มีทั้งหมดในปีภาษีนั้น ๆ อาทิ ประกันชีวิต ประกันสังคม การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี การเลี้ยงดูบิดามารดาที่อายุมากกว่า 60 ปี ฯลฯ

อย่างเช่น นาย A มีรายได้จากการทำงานประจำ เดือนละ 35,000 บาท และมีรายได้จากการทำนายหน้า Shopee ทั้งปีจำนวน 400,000 บาท จะต้องคำนวณหาอัตราภาษีที่ต้องชำระ ดังนี้

• ((35,000 x 12 เดือน) + 400,000) – 100,000 – 60,000 – 9,000 = 651,000

อัตราภาษีที่ต้องนำมาคำนวณหาภาษี คือ

• 150,000 แรก x 0% = 0 บาท
• 150,000 x 5% = 7,500 บาท
• 200,000 x 10% = 20,000 บาท
• 151,000 x 15% = 22,650 บาท
• ภาษีที่ต้องชำระ คือ 50,150 บาท

จะเห็นได้ว่า การคำนวณหาภาษีของนาย A ในข้างต้น เป็นเพียงการคำนวณแบบคร่าว ๆ ที่หักเฉพาะค่าใช้จ่ายสูงสุดที่ 100,000 บาท, ค่าลดหย่อนส่วนตัวจำนวน 60,000 บาท และการสมทบเงินเข้ากองทุนประกันสังคมจำนวน 9,000 บาท/ปี เท่านั้น ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วนาย A สามารถลดหย่อนภาษีได้อีกหลายกลุ่ม เช่น การซื้อประกันสุขภาพ การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และยังมีหมวดอื่น ๆ เช่น เงินบริจาค ที่สามารถลดหย่อนได้เช่นกัน

สรุป

สำหรับนายหน้าออนไลน์ หรือผู้ที่ทำ Affiliate Marketing ทั้งจากการทำนายหน้าติ๊กต๊อก, Shopee หรือ Lazada จะเห็นได้เลยว่า การยื่นภาษีไม่ใช้เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะฉะนั้น ในปีนี้หากใครที่มีรายได้หลายทาง ก็อย่าลืมวางแผนทางภาษีเอาไว้ให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีมานี้ ที่สามารถประมาณการรายได้แบบคร่าว ๆ ได้แล้ว จากรายได้ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้นำไปวางแผนการยื่นภาษีให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นอาจเจอภาษีย้อนหลังและค่าปรับได้ หากไม่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมาย

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP