เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภา มีมติวาระ 3 เห็นชอบผ่านร่างแก้ไขกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ด้วยการเพิ่มสิทธิลาคลอด 120 วัน จากเดิมที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีสิทธิลาคลอดเพียง 98 วัน โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งวันลาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการจ่ายค่าจ้างเมื่อลาคลอดบุตร

เพิ่มสิทธิลาคลอดใหม่ เป็น 120 วัน
จากการประชุมสมาชิกวุฒิสภาล่าสุด ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ …) พ.ศ…. ซึ่งผ่านการพิจารณาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวนี้มุ่งเน้นการเพิ่มสวัสดิการให้ลูกจ้างหญิง ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม
ด้วยการเพิ่มสิทธิวันลาคลอดจาก 98 วัน เป็น 120 วัน พร้อมกำหนดให้ผู้ประกันตนได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่ลา (แต่ไม่เกิน 60 วัน) นอกจากนี้ หากครบกำหนด 120 วัน แล้วพบว่าบุตรมีอาการเจ็บป่วย มีความผิดปกติ หรือว่ามีภาวะพิการ สามารถลาต่อเนื่องเพิ่มได้อีกไม่เกิน 15 วัน โดยที่จะได้รับค่าจ้างร้อยละ 50 ตลอดระยะเวลาที่ลา

ให้สิทธิคุณพ่อมือใหม่ลาช่วยเลี้ยงบุตรอีก 15 วัน
นอกจากคุณแม่ตั้งครรภ์จะได้รับสิทธิลาคลอดเพิ่มเป็น 120 วันแล้ว คู่สมรสหรือคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดง ยังได้รับสิทธิลาช่วยเลี้ยงบุตรได้ไม่เกิน 15 วัน โดยที่สามารถใช้สิทธิลาได้ภายในระยะเวลา 90 วัน ก่อนหรือหลังคลอดบุตรก็ได้ โดยกำหนดให้คู่สมรสได้รับค่าจ้างตลอดเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 15 วัน
สิทธิลาคลอดใหม่ 120 วัน เริ่มใช้เมื่อไหร่?
สำหรับสิทธิลาคลอด 120 วัน หลังจากที่ ส.ว.มีมติเห็นชอบแล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยจะประกาศผ่านทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเมื่อมีการประกาศแล้ว กฎหมายดังกล่าวนี้จะเริ่มใช้เมื่อพ้นระยะเวลา 30 วัน นับจากวันประกาศใช้

การจ่ายค่าจ้างเมื่อลูกจ้างลาคลอด ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน
หากยึดตามสิทธิลาคลอดใหม่ที่ประกาศเปลี่ยนแปลงจาก 98 วัน เป็น 120 วัน แล้ว การจ่ายค่าจ้างก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะในมุมของนายจ้าง ที่ต้องจ่ายค่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายแรงงาน ดังนี้
- เมื่อพนักงานที่เป็นผู้ประกันตนลาคลอด 120 วัน จะต้องจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 60 วัน (จากเดิม 45 วัน)
- การลาต่อเนื่องอีก 15 วัน เนื่องจากบุตรเจ็บป่วย หรือมีภาวะแทรกซ้อน มีภาวะพิการ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในอัตราร้อยละ 50 ตลอดระยะเวลาที่ลา
- สำหรับคู่สมรสที่ลาช่วยเลี้ยงบุตรหลังหรือก่อนคลอด จะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 15 วัน
สิทธิประกันสังคม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะได้รับ
นอกเหนือจากการลาคลอดบุตรแล้ว สิทธิที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น
- ค่าฝากครรภ์ จำนวน 1,500 บาท
- ค่าคลอดบุตร จำนวน 15,000 บาท/ครั้ง
- เงินสงเคราะห์การหยุดงาน 50% ของเงินเดือนเฉลี่ย (ไม่เกิน 15,000 บาท)
- ค่าชดเชยกรณีแท้งบุตร โดยต้องมีอายุครรภ์ไม่เกิน 28 สัปดาห์
- เงินช่วยเหลือเลี้ยงดูบุตร 800 บาท/เดือน
- หากเป็นครรภ์แฝดจะได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อเลี้ยงดูบุตร 1,200 บาท/เดือน

สรุป
จะเห็นได้เลยว่า สิทธิลาคลอดใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในช่วงปลายปี 2568 นี้ เป็นการช่วยเหลือลูกจ้างหญิงให้มีเวลาในการเลี้ยงดูบุตรหลังคลอดได้มากขึ้น ซึ่งในบางบริษัทก็อาจจะมีสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างเช่นกัน ทั้งนี้ สิทธิลาคลอดที่ถูกปรับเพิ่มเป็น 120 วัน ก็นับว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่ดี ทั้งในแง่ของเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะได้ดูแลบุตรได้นานมากขึ้น รวมถึงการได้รับค่าจ้างในระหว่างที่ลาอย่างเหมาะสม
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE








