หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานด้านการเงิน การบัญชี คุณจะได้ยินคำว่า เงินกู้ยืมกรรมการ หรือเงินกู้ยืมแก่กรรมการ คุณอาจจะทราบว่ามันคืออะไร แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานในส่วนนี้มากนักอาจจะไม่เคยได้ยินหรือรู้จักเงินกู้ยืมแก่กรรมการ เพราะฉะนั้นวันนี้ SMEMOVE จะมาบอกคุณว่า เงินกู้ยืมแก่กรรมการคืออะไร ทำไมกรมสรรพากรจึงเพ่งเล็งงบนี้เป็นพิเศษ และปิดท้ายด้วยข้อเสียของงบนี้ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร
เงินกู้ยืมกรรมการตามหลักการทางบัญชีถือเป็นเงินบริษัท ที่กรรมการเบิกขอหรือยืมไปใช้เป็นการส่วนตัว กรรมการจึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ของกิจการ แต่ปัจจุบันบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการจะนำไปใช้ปรับปรุงรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างเช่น การที่นักบัญชีตรวจสอบว่ามีเงินขาดหายไปจากรายการบัญชี ก็นำเงินที่หายไปมาใส่ไว้ที่กรรมการกู้เงิน เพื่อให้บัญชีปิดลงอย่างลงตัว
ในส่วนเงินกู้ยืมแก่กรรมการ สรรพากรได้บังคับให้คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด จึงทำให้กิจการที่มีรายการบัญชีนี้มาก ๆ ได้รับดอกเบี้ย เพื่อนำไปคำนวณภาษีจำนวนมากขึ้นนั่นเอง ในการคิดดอกเบี้ยจะต้องบันทึกรายการไปในงบการเงิน แต่หากไม่มีการคิดดอกเบี้ยจริง ก็ให้ปรับปรุงรายการดอกเบี้ยรับเข้าไปตอนยื่นภาษีประจำปี
สาเหตุที่ทำให้เกิดเงินกู้ยืมกรรมการ
– เกิดจากการจดทะเบียนบริษัทโดยที่ไม่มีเงินจริงตามจำนวนที่ยื่นจดทะเบียน จึงทำให้นักบัญชีนำจำนวนเงินที่ขาดหายไปมาเป็นเงินกู้ยืมกรรมการ
– กรรมการนำเงินภายในกิจการไปใช้ส่วนตัว
– เงินหายไปจากกิจการโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนที่หายจึงกลายมาเป็นเงินกู้ยืมแก่กรรมการ
– ปิดบัญชีไม่ลงตัว และนำเงินที่ขาดหายไปมาใส่ไว้ในรายการบัญชีนี้ก่อน
– รายจ่ายบางรายการนำมาลงบัญชีไม่ได้เนื่องจากอาจมีปัญหากับกรมสรรพากรได้ จึงนำมาไว้ในเงินกู้ยืมกรรมการแทน
ข้อเสียเงินกู้ยืมกรรมการคืออะไร
– หากกิจการมีรายการเงินกู้ยืมแก่กิจการมากไป งบการเงินหรือการทำบัญชีของกิจการอาจประสบปัญหาอยู่
– หากมีรายการเงินกู้ยืมแก่กรรมการ กิจการจะต้องคิดดอกเบี้ยเพื่อนำไปจ่ายภาษี นี่จึงเป็นการเพิ่มภาระทางภาษีให้กับกิจการอยู่มากพอสมควร
– เงินกู้แก่กรรมการส่งผลกระทบต่อการเงิน การบัญชี ในหลาย ๆ ด้าน
– กิจการโดนกรมสรรพากรเพ่งเล็ง ตรวจสอบ มากขึ้น
– งบบัญชีที่จัดทำขึ้นมาน่าเชื่อถือน้อยลง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงจะเห็นแล้วว่าเงินกู้ยืมแก่กรรมการมีลักษณะอย่างไร แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่ากังวลใจแต่อย่างใด หากกิจการใดมีเงินกู้ยืมแก่กรรมการอยู่ในระบบบัญชีที่มาอย่างถูกต้อง ไม่ว่าอย่างไรการกู้ยืมย่อมมีหลักฐานในการกู้ยืม การจ่ายดอกเบี้ย การทำบัญชีที่ถูกต้อง แต่ถ้าเงินกู้ยืมกรรมการไม่ได้มาจากการกู้ยืมอย่างถูกต้อง แต่มาจากความมักง่ายของคนทำบัญชี เจ้าของกิจการ ผลเสียมากมายย่อมตามมาแน่นอน
จากที่กล่าวมาข้างต้น การบัญชีมีหลายเรื่องที่ซับซ้อนและเสียเวลา แต่เรามีสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าลดเวลาในส่วนนี้ได้ เพื่อจะได้มีเวลาตัดสินใจในส่วนงานที่สำคัญได้มากขึ้น โดยสิ่งนั้นก็คือโปรแกรมบัญชีแบบ REAL-TIME ที่ช่วยให้ลูกค้าลดเวลาในการทำเอกสารหรือการทำบัญชีที่ซับซ้อนลงได้มาก เพราะตัวโปรแกรม SMEMOVE สามารถบันทึกบัญชีได้อัตโนมัติตั้งแต่ตอนทำเอกสาร และดู REPORT ได้แบบ REAL-TIME ทำให้ลูกค้าไม่พลาดทุกการตัดสินใจ และแน่นอนว่าราคาประหยัดเพียง 199 บาท/เดือน เห็นไหมว่าการทำบัญชีไม่ยากและแพงอย่างที่คิด
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE