สรุปข้อมูลสำคัญ ของระบบภาษีแบบใหม่ Negative Income Tax ที่ทางกรมสรรพากร มีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ยื่นภาษีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกคน เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าระบบภาษีแบบใหม่นี้ คืออะไร แล้วมีประเด็นอะไรบ้างที่น่าสนใจ สรุปจบง่าย ๆ ในบทความเดียว

Negative Income Tax คืออะไร?
Negative Income Tax (NIT) หมายถึง ภาษีเงินได้แบบติดลบ โดยเป็นนโยบายเงินช่วยเหลือบุคคล ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องเข้าระบบภาษีเพื่อยื่นภาษีเงินได้เหมือนกับผู้ทีมีรายได้ทั่วไปด้วย เรียกง่าย ๆ ก็คือ เป็นระบบภาษีแบบใหม่ที่ทำให้คนไทยทุกคน ต้องยื่นภาษีเหมือนกัน
แน่นอนว่า ระบบภาษีเงินได้แบบติดลบนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก ๆ เลยก็คือ การลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน โดยการยื่นภาษีจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- กลุ่มผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจะได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ เพื่อให้รายได้ใกล้เตียงกับเส้นรายได้ขั้นต่ำ (Income Threshold) มากที่สุด
- กลุ่มผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ จะยังคงเสียภาษีตามปกติ โดยปัจจุบันหากมีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 150,000 บาทขึ้นไป จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
การทำงานของระบบภาษีแบบ Negative Income Tax
รูปแบบการทำงานของระบบภาษีแบบ Negative Income Tax นั้น จะมี 2 องค์ประกอบรวมกัน คือ เกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำ (Income Threshold) และอัตราการชดเชย (Rate of Subsidy) ซึ่งตามข้อเสนอของ Friedman ของระบบ NIT จะมีอัตราชดเชยอยู่ที่ 50% เพราะฉะนั้น หากนำมาใช้ในบริบทของประเทศไทย จะสามารถคำนวณคร่าว ๆ ได้ดังนี้
- หากเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้เลย หรือต่ำกว่า 100,000 บาท จะได้รับเงินชดชยจากรัฐบาลในอัตรา 50% หรือก็คือ 150,000 x 50% = 75,000 บาท
- หากเป็นผู้ที่มีรายได้ 100,000 บาท/ปี จะนำเกณฑ์รายได้และนำยอดที่เหลือไป x 50% เช่น (150,000 – 100,000) x 50% = 25,000 บาท
- มีรายได้ถึง 150,000 บาท/ปี จะไม่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล เพราะเทียบเท่ากับเกณฑ์ขั้นต่ำ
- หากมีรายได้มากกว่า 150,000 บาท/ปี จะต้องเสียภาษีตามอัตราเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได ตั้งแต่ 5% – 35%
สาเหตุที่ทำให้ต้องปฏิรูปภาษีมาใช้ระบบ Negative Income Tax
ปัญหาหลัก ๆ ของประเทศไทยที่เผชิญอยู่ ณ ขณะนี้ ก็คือการขาดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทางรัฐบาลต้องหาเงินมาบริหารประเทศ จึงทำให้เกิดแนวคิด “ปฏิรูปภาษี” ซึ่งที่ผ่านมาก็มีประเด็นเรื่องภาษีมาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการปรับ VAT จาก 7% มาเป็น 10% ที่จะเริ่มใช้ในปี 1 ตุลาคม 2569 เนื่องจากการขยายเวลานับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569
เช่นเดียวกับระบบภาษี Negative Income Tax หรือ INT ที่มองว่าเป็นกลไกให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ในประเทศไทย ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศ และที่ขาดไม่ได้คือ รวมระบบการหารายได้และการให้ความช่วยเหลือเอาไว้ในระบบเดียว เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ก็นำระบบภาษีแบบ INT มาใช้ อาทิ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์

ก่อนเริ่มใช้ Negative Income Tax ประเทศไทยต้องดูอะไรบ้าง?
ก่อนที่ประเทศไทยจะเริ่มใช้ระบบภาษีเงินได้แบบติดลบ หรือ Negative Income Tax จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็น
- การกำหนดวัตถุประสงค์และกลุ้มเป้าหมายที่ต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างชัดเจน เพราะในปัจจุบันยังมีแรงงานนอกกระแสอีกหลายอาชีพ อาทิ พ่อค้าแม่ค้า ที่มีรายได้สูง แต่ยังมีหลายคนที่ไม่ได้ยื่นภาษี
- การกำหนดรายได้พร้อมการช่วยเหลือที่เหมาะสม โดยเฉพาะการสร้างแรงจูงใจให้คนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และต้องสอดคล้องกับค่าครองชีพ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ
- การบริหารงานและการเตรียมงบประมาณ ซึ่งบางครั้งอาจต้องพิจารณายกเลิกมาตรการบางอย่างที่มีความซ้ำซ้อน
- การกำหนดบทลงโทษและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ป้องกันแรงจูงใจในการกระทำผิด อาทิ การยื่นรายได้ไม่ตรงตามความเป็นจริง เพื่อรับสวัสดิการหรือเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ
แน่นอนว่า การใช้ระบบภาษี Negative Income Tax จะส่งผลดีในระยะยาวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนคนให้เข้าสู่ระบบภาษีได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย ที่จะเข้าระบบเพื่อรับเงินช่วยเหลือ และในอนาคตหากกลุ่มนี้มีรายได้ถึงเกณฑ์ ทางภาครัฐก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ เพราะเป็นผู้ที่มีฐานข้อมูลในระบบภาษีของสรรพากรอยู่แล้ว
ระบบภาษี Negative Income Tax เริ่มใช้เมื่อไหร่?
ระบบภาษีแบบ Negative Income Tax ในประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มใช้ระบบภาษีเงินได้แบบติดลบจริง ภายในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเชื่อมโยงและพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และหากในประเทศไทยเริ่มใช้ระบบ NIT จริง ๆ ก็น่าจะมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม รวมถึงการขึ้นภาษีเพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอ ซึ่งก็อาจจะส่งผลต่อผู้เสียภาษีที่ต้องแบกรับภาระภาษีเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สรุป
จะเห็นได้เลยว่า ระบบภาษีเงินได้แบบติดลบ Negative Income Tax นี้ ยังมีหลาย ๆ ประเด็นที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งก็น่าจะต้องรอดูทิศทางและนโยบายจากทางรัฐบาลอีกครั้ง รวมถึงการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ และไม่ว่าระบบภาษีจะปรับเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วผู้มีเงินได้ทุกคนยังคงต้อง “ยื่นภาษีทุกคน” ตามกฎหมายนั่นเอง
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE








