รู้จัก “G-Token” แบบรวบรัด นวัตกรรมทางการเงินใหม่ของภาครัฐ

By posted on July 21, 2025 9:20AM
รู้จัก "G-Token" แบบรวบรัด นวัตกรรมทางการเงินใหม่ของภาครัฐ

ในช่วงที่ผ่านมาเชื่อว่านักลงทุนคงเคยได้ยินคำว่า “G-Token” กันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะในวงการนักเทรดและนักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ต่างก็จับตาการทำงานของโทเคนดิจิทัลอย่าง G-Token กันอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นสินทรัพย์เกี่ยวกับอะไร ลงทุนแบบไหน แล้วมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ในการลงทุนในประเทศไทย

G-Token คืออะไร

G-Token คืออะไร?

G-Token (Government Token) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน เป็นนวัตกรรมทางการเงินของรัฐบาลไทย โดยมีกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ โดย G-Token นับว่าเป็นเครื่องมือการระดมทุน (Fundraising Tools) รูปแบบใหม่ของทางภาครัฐ ที่นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการสร้าง G-Token ก็เพื่อเป็นการกู้ยืมเงินจากภาคประชาชน รวมถึงสถาบันต่าง ๆ เพื่อนำไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณของประเทศ

โดยการออก G-Token หรือโทเคนเพื่อการลงทุนของทางภาครัฐ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีลักษณะเป็นตราสารหนี้ของภาครัฐในรูปแบบดิจิทัล หลักการจะคล้าย ๆ กับการลงทุนหรือการถือพันบัตรออมทรัพย์ โดยจะให้สิทธิแก้ผู้ที่มี G-Token คือ ได้รับเงินต้นพร้อมกับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่จะมาในรูปแบบของดิจิทัลแบบ 100%

ทางด้าน นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. ได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังออก G-Token ในตลาดแรกได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเสนอขายกับทาง ก.ล.ต. แต่ให้ทางกระทรวงการคลังต้องไปเลือกเชนหรือบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ ซึ่งรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทั่วไปโดยไม่ต้องเป็น G-Token เพียงอย่างเดียว

การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล G-Token

กฎหมายและการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล G-Token

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนหรือภาคประชาชน ที่ต้องการลงทุนในโครงการ G-Token นี้ ทางภาครัฐก็ได้มีการให้อำนาจและการกำกับดูแลอย่างชัดเจน เพราะถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะฉะนั้น การออกและการเสนอขาย จึงต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ The Securities and Exchange Commission)

โดยทาง ก.ล.ต. จะเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอขาย ผู้ดูแลแพลตฟอร์มการซื้อขายของ G-Token ตลอดจนการคุ้มครองผู้ลงทุน ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

เหตุผลที่ทำให้ภาครัฐพัฒนา G-Token ในไทย

เหตุผลที่ทำให้ภาครัฐพัฒนา G-Token ในไทย

แน่นอนว่าการพัฒนา G-Token ในไทย ไม่ได้มีเพียงแค่การระดมทุนของทางภาครัฐ ด้วยการกู้ยืมเงินจากภาคประชาชนที่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • การเปิดประตูสู่โอกาสทางด้านการออมและการลงทุนที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความคุ้นชินกับการลงทุนและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
  • ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของการระดมทุนของทางภาครัฐ ทำให้การระดุมทันคล่องตัวและมีต้นทุนที่ต่ำลง ส่งผลระยะยาวต่อการจัดการปัญหาหนี้สาธารณะ
  • การขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง เพราะสามารถเริ่มต้นได้ที่หน่วยละ 1 บาท
  • ทำให้ประชาชนเข้าถึงการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำของทางภาครัฐได้ง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ไขปัญหาและการลดข้อจำกัดของพันธบัตรรัฐบาลแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย โดยเฉพาะการซื้อขายและการเปลี่ยนมือที่อาจใช้เวลานานเกินไป ในขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง G-Token สามารถทำการซื้อขายได้ทันที นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินการของภาครัฐในการออกพันธบัตรได้ด้วย และที่ขาดไม่คือ ส่งเสริมวินัยการออมให้กับคนรุ่นใหม่

โครงการนำร่อง G-Token ในไทยที่น่าจับตา

โครงการนำร่อง G-Token ที่น่าจับตา

รายละเอียดเบื้องต้นของโครงการนำร่อง G-Token นี้ ทางด้าน นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สามารถออกได้เร็วสุดในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ หลังจากจัดทำรายละเอียดร่วมกับ ก.ล.ต. โดยจะต้องดำเนินการภายใน 45 วัน นับจากมติ ครม. มีรายละเอียดดังนี้

  • วัตถุประสงค์ ระดมเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนฯ ปี 2568
  • วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท
  • อายุไม่เกิน 1 ปี ต่อการออก 1 รอบ
  • ใน 1 หน่วย G-Token เท่ากับ 1 – 100 บาท

สำหรับอัตราดอกเบี้ยของ G-Token ในเบื้องต้น จะเทียบเคียงกับพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาล โดย สบน. จะพิจารณาแรงจูงใจเพิ่มเติม โดยช่องทางจำหน่ายในตอนนี้ คือ บริษัทหลักทรัพย์ และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ซึ่งสามารถซื้อและขายได้แบบเรียลไทม์

สรุป

จากมาตรฐานหรือโครงการสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐ G-Token ที่อยู่ภายใต้การกำกับและดูแลของ ก.ล.ต. นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเงินที่น่าจับตา เพราะเป็นการนำเอาเทคโนโลยี DLT มาใช้ในภาครัฐ ซึ่งหากโครงการเปิดตัวและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เราก็อาจจะได้เห็นโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันตามมา โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีผลตอบแทนจาก G-Token ของกรมสรรพากร ที่ถือเป็นรายได้เอกเบี้ย ที่จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15% เหมือนกับตราสารหนี้ทั่วไป เป็นต้น

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP

ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่

บทความบัญชี: smemove.com/blog

Facebook: Facebook.com/smemove.th

Youtube: SMEMOVE