เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบให้ผู้คนในประเทศไทยมีพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่าการปรับตัวนั้นไม่ใช่แค่ผู้คนทั่วไป แต่ยังรวมไปถึงเจ้าของธุรกิจที่ต้องทำการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และทำให้กิจการดำเนินต่อไปได้ทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้ SMEMOVE จะกลับมาพร้อมกับเรื่องราวดีๆ อย่าง 4 สิ่งสำคัญที่คนทำธุรกิจควรรู้ในยุค New Normal เพื่อรับมือกับวิถีการทำธุรกิจแบบใหม่ให้ดียิ่งขึ้น
1. ทำความเข้าใจวิถี New Normal
อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าพฤติกรรมของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปไม่มากก็น้อยหลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งนี่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญของคนทำธุรกิจเพราะพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปย่อมมีผลกระทบต่อการทำธุรกิจไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะธุรกิจค้าขาย และให้บริการที่มีการควบคุม และป้องกันการระบาดของเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด
ดังนั้นคุณจึงจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจวิถี New Normal มาตรการการป้องกันโรค และสภาพเศรษฐกิจที่หยุดชะงักหลังจากการแพร่ระบาด ที่อาจส่งผลกระทบให้ผู้คนควบคุมรายจ่าย จับจ่ายใช้สอยน้อยลง ที่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้ผู้คนกลับมาจับจ่ายใช้สอยเท่าเดิมหรือมากขึ้น
2. ใส่ใจสุขภาพทางการเงินของกิจการ
การเงินคือหัวใจหลักของการทำธุรกิจ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้คุณควรใส่ใจการเงินภายในกิจการให้มากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบกระแสเงินสดระยะสั้นในช่วง 13 สัปดาห์ ที่เรียกว่า Cash War Room ที่เป็นวิธีดีๆ ในการประมาณความสามารถในการดำเนินธุรกิจเบื้องต้นหลังจากที่คุณทำความเข้าใจกับวิถี New Normal ไปแล้ว
Cash War Room คือการประเมินกระแสเงินสดระยะสั้นที่จะนำรายได้ และรายจ่ายสำคัญในช่วง 13 สัปดาห์ข้างหน้านับจากวันที่ทำการคำนวณเพื่อดูว่ากิจการของคุณมีอะไรที่น่าเป็นห่วงบ้างในอนาคต หากผลออกมาเป็นบวก ก็แปลว่าสุขภาพทางการเงินภายในกิจการของคุณยังดีอยู่
สูตรคำนวณ Cash war room: Cash war room = เงินสดคงเหลือปัจจุบัน วงเงินเครดิตที่ยังเบิกได้ รายได้และลูกหนี้ที่มีกำหนดชำระแล้ว – เจ้าหนี้ที่มีกำหนดชำระ – เงินงวดผ่อนชำระหนี้ – รายจ่ายของธุรกิจ (เงินเดือน ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายธุรกิจ)
3. จัดการเงินสดภายในกิจการให้สมบูรณ์แบบ
การจัดการบริหารเงินสดภายในกิจการเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยคุณสามารถแบ่งการจัดการเงินเป็น 3 รูปแบบ คือการทำธุรกิจ การลงทุน และการจัดหาเงิน ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการจัดการกระแสเงินสดในการทำธุรกิจ ประเมินสินค้าคงเหลือที่ค้างนานลดให้เหลือน้อยที่สุด
ติดตามหนี้จากลูกหนี้เร่งให้ชำระตามกำหนด เจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ ขอลดค่าเช่า หรือใช้มาตรการของธนาคารในการขอพักชำระหนี้ หยุดการลงทุนที่ไม่จำเป็น มองหารายการสินทรัพย์ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลการขายออกอาจเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดรายจ่ายได้ดี และเร่งจัดการหาแหล่งเงินทุนเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้โดยมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม หากดอกเบี้ยมากเกินไปก็อาจเป็นหาในอนาคตได้
4. ทบทวนธุรกิจจัดทำ Business Model
เมื่อผู้คนเข้าสู่วิถี New Normal แล้วนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะกลับมาทบทวนรูปแบบการทำธุรกิจของคุณอีกครั้ง เพื่อปรับแผนการในการดำเนินกิจการ และรับมือที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการปรับวิธีการหารายได้ การปรับโครงสร้างต้นทุน และรายจ่าย การลดรายจ่ายคงที่ให้มากที่สุด ในกรณีที่รายได้ลดลงในระยะยาวการปรับแผนธุรกิจ และค้นหาวิธีการหารายได้ใหม่ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรทำ เพื่อให้ธุรกิจของคุณกลับมาเดินได้อีกครั้ง พร้อมเข้าสู่การแข่งขันรูปแบบใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอนาคต
การปรับตัวถือเป็นหัวใจหลักในการทำธุรกิจ และการทำธุรกิจที่ดีจะต้องพร้อมปรับตัวอยู่เสมอเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับการทำบัญชีที่หากจะทำให้ดีมีประสิทธิภาพก็จำเป็นจะต้องมีตัวช่วยดีๆ อย่างโปรแกรมบันทึกบัญชีออนไลน์ SMEMOVE ไว้ใช้งาน
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE