12 กฎสำหรับการใช้ชีวิตโดย Jordan Peterson

12 Rules for Life by Jordan Peterson: Summary, Notes, and Lessons

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ เราจำเป็นต้องตั้งกฎเกณฑ์การดำเนินชีวิต เชื่อว่าหลายคนคงจะมีกฎเกณฑ์การดำรงชีวิตอยู่แล้ว วันนี้เราขอแนะนำ 12 กฎการใช้ชีวิตเพื่อความสำเร็จของ Jordan Peterson ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาชื่อดังชาวแคนาดา ที่นอกจากจะเป็นนักจิตวิทยาบำบัดแล้วยังเป็นศาสตราจารย์ประจำ University of Toronto ในสาขาจิตวิทยาอีกด้วย กฎทั้ง 12 ข้อนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

Rule 1: Stand Up Straight With Your Shoulders Back

กฎข้อแรกก็คือการยืนตัวตรงให้ขนานกับไหล่ตลอดเวลา เชื่อว่าแค่กฎข้อแรกน่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนตั้งไว้เป็นกฎของตัวเองเช่นเดียวกัน การยืนตัวตรงหรือจะเรียกว่าอกผายไหล่ผึ่งนั้นเป็นการสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวคุณเองเวลาที่ต้องอยู่ในที่สาธารณะ แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายของใครบางคน เพราะส่วนใหญ่แล้วเรามักจะลืมตัวและอยู่ในท่าหลังโค้งซึ่งสบายมากกว่า

ไม่เพียงช่วยในเรื่องบุคลิกภาพที่น่ามองและน่าเชื่อถือเท่านั้น การทำให้หลังตรงยังช่วยลดโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น กระดูกสันหลังคดงอ และโรคร้ายแรงต่าง ๆ อีกด้วย การทำให้ตัวตรงนั้นจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งสาร Serotonin มากขึ้น และลดสาร Octopamine ให้น้อยลง ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขและพร้อมที่จะจัดการชีวิตในแต่ละวัน

Rule 2: Treat Yourself Like Someone You Are Responsible for Helping

ปฏิบัติตนเหมือนคนที่คุณมีความรับผิดชอบในการช่วยเหลือ หรือในที่นี้ก็คือการมีสติอยู่ตลอดเวลานั่นเอง อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก เพราะปัจจุบันเราต้องพบเจอในชีวิตประจำวันที่อาจจะแย่งสติของเราไม่ให้มุ่งเน้นกับเรื่องที่สมควรจะใช้สติอย่างมากอยู่ เช่น เรื่องการสูญเสียสิ่งที่รักต่าง ๆ การก้มหน้ามัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน ฯลฯ

การมีสติอยู่กับตัวนั้นจะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญได้ดีกว่า หลายครั้งที่เรามักจะนำเอาอารมณ์ไปใช้ในการแก้ปัญหาซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ผิด โดยเราจะเห็นตัวอย่างต่าง ๆ จากสังคมไทยเราในปัจจุบัน สติจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างเป็นระบบมีขั้นตอนที่ชัดเจนซึ่งสามารถตรวจสอบได้

Rule 3: Make Friends with People Who Want the Best For You

ดั่งสุภาษิตไทยที่เราเคยได้ยินมาตลอดว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” การเลือกคบในชีวิตของเรานั้นถือเป็นเรื่องที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เช่นเดียวกัน คุณควรที่จะเลือกคบกับเพื่อนที่มุ่งหวังให้เราเป็นคนดีได้แบบสุด ๆ หลายคนอาจจะเลิกคบเพื่อนที่คอยติเราอยู่เสมอ แต่การติเพื่อก่อเมื่อเรานำมาคิดให้ถี่ถ้วนแล้วนั้น จะเข้าใจว่าเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนที่ดี ซึ่งจะนำพาให้เราเป็นคนที่ดีและก้าวหน้าในชีวิตได้อีกด้วย

Rule 4: Compare Yourself to Who You Were Yesterday, Not Who Someone Else is Today

เช่นเดียวกันคำสอนที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กว่าทำวันนี้ให้ดีกว่าเก่านั้นเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตเราเจริญก้าวหน้าได้ การสำรวจตัวเองในอดีตที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ดีขึ้นในวันนี้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างความท้าทายให้กับชีวิตคุณอยู่เสมอในการที่จะบังคับตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่ถอยหลังกลับ

Rule 5: Do Not Let Your Children Do Anything that Makes You Dislike Them

สำหรับกฎข้อที่ 5 นั้นอาจจะเจาะจงไปสักหน่อย กับการให้เราเลือกที่จะไม่ให้ลูกหลานของเราทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ รวมถึงทำสิ่งที่ซ้ำกับที่เราเคยทำพลาดมาในอดีต แต่คนที่ยังไม่มีลูกหลานก็ทำได้เช่นกัน ด้วยการนำกฎข้อที่ 4 มาใช้ร่วมด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่เราไม่ชอบคืออะไร หรือทำไปแล้วไม่ก่อให้เกิดผลดีในชีวิต คุณจะสามารถนำมันมาวิเคราะห์ เพื่อที่วันต่อ ๆ ไปจะได้ไม่ทำซ้ำกับข้อผิดพลาดเดิม

มนุษย์เรานั้นไม่ได้เกิดมาเป็นอมตะ แน่นอนว่าทุกคนย่อมเคยกระทำสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตมาก่อน การละทิ้งข้อผิดพลาดนั้นไปแล้วกลับมาปรับปรุงตัวใหม่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น อย่าจมอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับ เพราะเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้ จงมีชีวิตอยู่กับวันนี้และวันพรุ่งนี้ โดยให้ความผิดพลาดทั้งหลายที่เราเคยกระทำไปเป็นการเรียนรู้และข้อเตือนใจ ที่สำคัญที่สุดสำหรับใครที่มีลูกหลาน ก็อย่าลืมสอนสิ่งที่จะทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดี ไม่ทำพลาดเหมือนคุณในอดีตด้วย

 Rule 6: Set Your House in Perfect Order Before You Criticize the World

มาครึ่งทางแล้วกับกฎข้อที่ 6 ที่บอกเอาไว้ว่าให้ทำบ้านของคุณให้สมบูรณ์แบบก่อนที่คุณจะไปวิจารณ์โลกภายนอก ซึ่งกฎข้อนี้ค่อนข้างชัดเจนมากทีเดียว การมีบ้าน มีครอบครัว ที่สมบูรณ์จะช่วยให้คุณและบุคคลในครอบครัวดำเนินชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จได้

เมื่อครอบครัวประสบความสำเร็จ คุณรวมถึงบุคคลในครอบครัวจะสร้างความสำเร็จให้กับสังคมภายนอกได้ โลกเรานั้นก้าวไปเร็ว ดังนั้น เราต้องก้าวให้ทัน คุณอาจจะเลือกวิธีการตั้งกฎในครอบครัว เพื่อเป็นการฝึกฝนให้บุคคลในครอบครัวออกไปใช้ชีวิตภายนอกได้ เริ่มต้นง่าย ๆ กับตัวคุณเองด้วยการเลิกทำสิ่งที่ผิด และอย่ามัวแต่ตั้งคำถามว่าสิ่งที่ทำให้คุณทำสิ่งที่ผิดนั้นคืออะไร แต่ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการพัฒนาตัวเองไม่ให้ทำผิดและขยายไปยังสังคมของคุณ ไม่เพียงแต่คุณจะก้าวหน้าคนเดียว แต่ยังช่วยให้สังคมของคุณก้าวหน้าไปด้วยอีกต่างหาก

Rule 7: Pursue What is Meaningful (Not What is Expedient)

การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้น บางครั้งคุณต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าสิ่งที่คุณทำไปนั้นมีประโยชน์หรือไม่ จากนั้นแทนที่ด้วยการคิดวิเคราะห์ว่าสิ่งที่คุณทำไปนั้นมีประโยชน์อะไรบ้างมากกว่า

เมื่อคุณคิดเช่นนี้แล้วจะเป็นการฝึกให้คุณมองโลกในแง่ดี ทำดี และทำให้ชีวิตคุณก้าวหน้าได้ดี บางครั้งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นเรื่องดีอาจจะได้รับการมองข้ามไป แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังกล่าวที่มีประโยชน์นั้นเมื่อนำมารวมกัน ประโยชน์ของมันจะมากขึ้น และคุณเองจะก้าวไปในอนาคตได้อย่างสดใส

Rule 8: Tell the Truth, or at least Don’t Lie

อีกกฎหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในการดำรงชีวิตให้ประสบความสำเร็จนั้นก็คือการพูดความจริง หรืออย่างน้อยต้องไม่โกหก (หรือที่เราเรียกกันว่าบอกความจริงไม่หมด) การพูดความจริงนอกจากจะทำให้บุคคลรอบข้างมองเราเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือแล้ว ยังไม่เป็นการย้อนมาทำร้ายคุณทีหลังอีกด้วย

สำหรับการโกหกนั้นเชื่อว่าทุกคนรู้แน่นอนว่ามีแต่จะทำให้เกิดผลไม่ดีเกิดขึ้น อย่างเช่น การทำงานนั้นถ้าคุณทำไม่ได้หรือทำไม่ทัน คุณควรจะบอกผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าคุณไปตามตรง เพื่อคุณจะได้ไม่เครียด และยังช่วยกันหาวิธีแก้ไขด้วยกันได้อีกต่างหาก

Rule 9: Assume that the Person You Are Listening to Might Know Something You Don’t

ต่อกันด้วยกฎที่ให้สมมติว่าคนที่คุณฟังอาจรู้บางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่เคยรู้ คนเรานั้นไม่มีใครรู้ไปหมดทุกอย่างบนโลกใบนี้ แน่นอนว่าแต่ละคนก็มีความรู้ความสามารถแตกต่างกันไป การทำงานและการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จนั้น เราจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อที่จะนำมาปรับใช้งานกับตัวเอง หรือเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อที่ว่าตัวคุณเองจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้

Rule 10: Be Precise in Your Speech

บางครั้งเรามักจะลืมไปว่าคำพูดของเรานั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะรำลึกอยู่เสมอ ก็คือสิ่งที่คุณพูดออกไปนั้นมีผลกระทบกับตัวคุณเองเสมอ อย่างเช่น การทำงานนั้นหากคุณไปรับปากในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ บางครั้งงานนั้นอาจจะเสียไปทั้งระบบได้ และตัวคุณเองจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเข้ามา ดังนั้น คำพูดของคุณจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่กำหนดตัวตนของคุณ คุณจึงควรให้ความสำคัญกับคำพูดของคุณให้มากเข้าไว้

Rule 11: Do Not Bother Children when they are Skateboarding

แม้ว่าการเล่นสเกตบอร์ดจะอันตรายกับลูกหลานของคุณก็ตาม แต่นั่นถือได้ว่าเป็นการฝึกฝนให้เด็ก ๆ ได้รู้จักกับการรับมือและกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ที่เสี่ยงอันตราย เช่นเดียวกันกับตัวของคุณที่ไม่ควรปิดโอกาสตัวเองกับการไม่ทำอะไรสักอย่างใหม่ ๆ เพราะคิดว่ามันอันตรายเกินไป บางครั้งการเสี่ยงอันตรายบ้างก็เป็นการสร้างความท้าทายให้กับชีวิต และถ้าคุณสามารถทำมันได้สำเร็จ นั่นหมายความว่าคุณก้าวหน้าไปอีกขั้น และพร้อมที่จะเสี่ยงรับอันตรายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตคุณ

Rule 12: Pet a Cat When You Encounter One on the Street

มาถึงกฎข้อสุดท้ายกันแล้ว กับกฎที่บอกเอาไว้ว่าให้คุณให้อาหารแมวเมื่อคุณพบมันอยู่บนถนน ซึ่งความหมายของมันก็คือคุณควรช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหา เพื่อที่ว่าในอนาคตเมื่อคุณเป็นผู้ที่ประสบปัญหาบ้าง จะได้มีคนอื่นก้าวเข้ามาช่วยให้คุณผ่านปัญหานั้น ๆ ไปได้

ที่มา : nateliason

เพราะฉะนั้นงานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เรามีสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำงานได้รวดเร็วขึ้นโดยการใช้โปรแกรมบัญชี SMEMOVE ที่บันทึกบัญชีได้อัตโนมัติและดู REPORT ได้แบบ REAL-TIME เป็นโปรแกรมที่ง่าย สะดวก และราคาประหยัด ทดลองใช้งานฟรีตามลิงก์ด้านล่างได้เลย

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP