บทเรียนในหนังสือ “How to Win Friends & Influence People” ที่มาจากยุค 1930s แต่เหมาะกับผู้ประกอบการสมัยใหม่

เชื่อเหลือเกินว่าผู้ประกอบการใหม่ ๆ นั้นบางท่านอาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากการอ่านหนังสือต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณ Brian Hamilton ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง Sageworks กลับบอกว่าหนังสือที่เหมาะกับผู้ประกอบการสมัยใหม่นั้นคือหนังสือชื่อ “How to Win Friends & Influence People” ของคุณ Dale Carnegie ซึ่งตีพิมพ์ออกมาตั้งแต่ยุค 1930s แล้ว ลองมาดูกันว่าทำไมผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จในยุคใหม่ถึงแนะนำให้อ่านหนังสือที่มีอายุเกือบ 90 ปี เล่มนี้

ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าหนังสือเล่มนี้ผู้บริหารในบริษัทใหญ่ ๆ ต่างก็อ่านกันมาแล้วไม่ว่าจะเป็น Warren Buffett และผู้ก่อตั้ง Subway อย่าง Fred DeLuca เป็นต้น สาเหตุที่หนังสือเล่มนี้น่าอ่านและน่าศึกษาตามนั้น ก็เนื่องมาจากว่าบทเรียนต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เก่าไปตามอายุของมันเลย คุณจะได้พบกับบทเรียนต่าง ๆ ที่พบว่าควรทำและสามารถนำไปใช้ในการแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างมากมาย ลองมาดูบางบทเรียนในหนังสือเล่มนี้กันดูว่าจะน่าสนใจมากแค่ไหน

Put yourself in the other person’s shoes.

จริง ๆ แล้วเราทุกคนเคยได้รับการสอนมาแล้วว่าให้เอาใจใส่กับงานหรือเรื่องที่ทำต่าง ๆ ให้มาก เมื่อเวลาผ่านไปบางคนก็ลืมที่จะนำเอาคำสอนดังกล่าวนี้มาใช้ในการทำงาน ในโลกของธุรกิจนั้นสิ่งที่เราควรทำก็คือลองมองในมุมมองของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน หรืออาจจะบอกได้ว่าเป็นการตามรอยเท้าของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วก็คงไม่ผิดนัก สิ่งที่ควรทำก็คือเราควรวิเคราะห์ในเรื่องการตัดสินใจและการพิจารณาในการแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ของผู้ที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น

ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น ในการทำธุรกิจนั้นเราควรที่จะลองมองจากมุมมองของผู้บริโภคด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความต้องการ หรือกระทั่งเรื่องการตัดสินใจหลังจากนั้นนำมาพิจารณาว่าเราควรจะปรับรูปแบบการทำงานหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการนั้นอย่างไร เรื่องดังกล่าวนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องง่ายที่หากเราใส่ใจแล้วจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้

Don’t try to be right — or worse, attempt to make others wrong.

การมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี รวมถึงการตัดสินการกระทำของผู้อื่นว่าเป็นเรื่องที่ผิดนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งเราทำแบบที่ได้กล่าวไว้มากเท่าไร ความสามารถในการพัฒนาของเราจะลดลงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองหาว่าผู้อื่นทำอะไรบกพร่องหรือทำผิดบ้างนั้น จะกลายเป็นว่าคุณได้เสียเวลาไปกับการมองหาความผิดของคนอื่น ซึ่งมันจะทำให้คุณหลงทางเอง

เรื่องการมองหาความผิดพลาดของผู้อื่น รวมถึงการจมอยู่กับความผิดของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เลิกยาก วิธีการแก้ไขก็คือคุณควรจะเปลี่ยนมุมมองในการมองใหม่ เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองจากที่เคยถามว่าเราทำผิดอะไร ก็ให้เปลี่ยนเป็นเราควรปรับปรุงเรื่องใด เพื่อทำให้การทำงานประสบความสำเร็จบ้าง หรืออาจจะถามตัวเองบ้างว่าเราอยากจะให้ผลิตภัณฑ์ของเราดีขึ้นหรือแค่ต้องการทำให้มันชนะการแข่งขันเท่านั้น หากคุณสามารถปรับมุมมองนี้ได้ ก็อย่าลืมที่จะเปิดใจยอมรับข้อเสนอแนะจากคนอื่น เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงตัวคุณเอง

Brian Hamilton

Try to really like the people you work with.

งานบางงานนั้นอาจจะทำให้สำเร็จได้ด้วยตัวเอง แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในความเป็นจริงแล้ว เราอาจจะต้องติดต่อหรือทำงานร่วมกับผู้คนมากมาย ดังนั้น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น คุณควรพยายามเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงานหรือคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในงานของคุณจากใจของคุณเองโดยไม่เสแสร้ง ลองเริ่มต้นด้วยการยิ้มให้กับเพื่อนที่ทำงานของคุณดู แล้วคุณจะรู้ว่ามันไม่ได้ยากเลยที่จะทำ

Avoid arguments in all cases.

บทเรียนนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง แม้เวลาจะผ่านมากว่า 90 ปีแล้ว แต่บทเรียนนี้ยังใช้งานได้ดีอยู่ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการพยายามหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งกับผู้อื่นให้มากที่สุด ลองเปิดใจรับฟังผู้อื่น เพื่อรับฟังข้อผิดพลาดหรือคำเสนอแนะที่ดี ๆ แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองทั้งในการใช้ชีวิตประจำวันไปจนถึงชีวิตการทำงาน พยายามใช้ชีวิตด้วยความใจเย็น แล้วคุณจะรู้ว่าการเลี่ยงความขัดแย้งกับผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ทำยากเลย

Use people’s first names, and don’t forget them.

มาถึงบทเรียนข้อสุดท้ายที่คุณ Brian ได้ยกมาจากหนังสือ “How to Win Friends & Influence People” กับบทเรียนที่ว่าให้เรียกชื่อต้นของผู้ที่เราสนทนาด้วย (ในเมืองไทยอาจเรียกชื่อเล่นดูจะเข้าท่ามากกว่า) และต้องไม่ลืมที่จะจดจำพวกเขาไว้ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตคุณอาจต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาก็เป็นได้

อันที่จริงแล้วหนังสือเล่มนี้ยังมีบทเรียนอีกมากมายที่น่าสนใจ แต่เนื่องจากตัวหนังสือเป็นภาษาอังกฤษและตีพิมพ์มานาน หากคุณมีโอกาสพบหนังสือเล่มนี้ เราอยากแนะนำให้คุณลองซื้อมาอ่านและนำมาปรับใช้ปฏิบัติกับชีวิตคุณดู

หมายเหตุ – สำหรับหนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างก็คือช่วยให้คุณได้ฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษอีกด้วย

ที่มา : entrepreneur

ถ้าคุณเป็นนักบัญชีหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องทำบัญชีแล้วเกิดปัญหาว่าทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้ อยากอ่านหนังสือที่ซื้อใจจะขาด แนะนำโปรแกรมบัญชี SMEMOVE ที่จะช่วยให้งานบัญชีของคุณนั้นง่ายขึ้นและเปลี่ยนไปตลอดกาล และอย่าอ่านหนังสือจนลืมทำบัญชีล่ะ

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP