Lessons from The Effective Executive by Peter Drucker
เมืองไทยเรามักจะปลูกฝังลูกหลานว่าต้องเรียนหนังสือเก่ง ๆ เพื่อที่จะได้ทำงานดี ๆ และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือการพยายามทำงานให้หนักเข้าไว้เนื่องจากมันจะทำให้เราประสบความสำเร็จ ในความเป็นจริงแล้วการปลูกฝังดังกล่าวไม่เป็นจริงเสมอไป การที่จะประสบความสำเร็จนั้นยังต้องมีองค์ประกอบอีกมากมาย
สติปัญญานั้นถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ แต่คุณเองจำเป็นต้องมีจินตนาการและความรู้ในสิ่งที่คุณจะทำรวมอยู่ในตัวคุณด้วยเช่นกัน โดยสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จนั้นก็คือประสิทธิภาพโดยรวมทั้งหมด ซึ่งมันจะกลายมาเป็นผลลัพธ์การทำงานของเราโดยที่ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้
หลายบริษัทพยายามจ้างคนที่มีความรู้ไปหมดทุกด้าน โดยหวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราคงไม่สามารถหาผู้ที่เก่งทุกอย่างได้หมดเพื่อที่จะให้เขามาทำงานให้เรา เพื่อเป็นการกระจายความสำเร็จ เราจำเป็นต้องจ้างผู้ที่มีความรู้ในด้านต่าง ๆ มาทำงานที่ต่างกัน เพื่อที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การที่เราจะประสบความสำเร็จได้นั้นมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมาก นั่นก็คือการไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ และพยายามพัฒนาความรู้ความสามารถใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้ตัวเองอยู่เสมอ สิ่งที่ต้องจำไว้เลยก็คือเมื่อเราประสบความสำเร็จได้ นั่นหมายความว่าตัวเราสามารถทำให้บริษัทของเราประสบความสำเร็จได้ด้วยเช่นเดียวกัน
เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองจนทำให้การทำงานประสบความสำเร็จได้นั้น เราขอยกบทเรียนของ Peter Drucker มาให้ทุกท่านได้ลองนำไปฝึกปฏิบัติกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย
รู้จักช่วงเวลาของคุณเอง
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ทำงานระดับบริหารมักจะเริ่มต้นด้วยการถกเถียงกัน เพื่อที่จะวางแผนการทำงานบ้าง และในตอนท้ายนั้นผลลัพธ์การถกเถียงจะอยู่ในรูปแบบกระดาษใบหนึ่ง (หรืออาจจะมากกว่านั้น) เพื่อที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามเอกสารดังกล่าวนี้
แต่นี่ไม่ใช่วิธีเริ่มต้นการทำงานที่ดีมากนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้บริหารที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น พวกเขามักเริ่มต้นด้วยการจัดการเวลาของพวกเขาว่าจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน และพยายามตัดกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิผลออกไป โดยก้าวแรกที่จะเริ่มต้นในแต่ละวันของผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จนั้นก็คือการจดจำเวลาที่จะใช้งาน เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพจริง ๆ เอาไว้แล้วนำมันมาพัฒนาแต่ละก้าวในวันต่อ ๆ ไป เพื่อที่จะทำให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น การใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาเพื่อการทำงาน หรือแม้แต่ใช้เวลาในการดำเนินกิจวัตรประจำวันนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ แม้มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก เพราะในแต่ละวันนั้นเราไม่รู้ว่าต้องพบเจอกับเหตุการอะไรบ้าง แต่มันสามารถฝึกให้เราเป็นคนที่ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า เมื่อคุณใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ตัวคุณเองจะจัดการกับสิ่งอื่นที่ต้องประสบพบเจอในชีวิตที่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวันของคุณได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต
สิ่งต่อมาสำหรับการทำให้ชีวิตในแต่ละวันของคุณเกิดความสำเร็จก็คือ การมองหากิจวัตรประจำวันที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิผลออกไป เมื่อเรารู้ว่าในแต่ละวันนั้นชีวิตของเราต้องใช้เวลาทำอะไรบ้าง คุณเองก็ควรมองหากิจวัตรที่เพิ่มเวลาให้กับมัน หรือกิจวัตรใดที่คุณสามารถลดเวลามันแล้วนำเอาเวลาอันมีค่าของคุณไปเพิ่มให้กับกิจวัตรอื่นที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลอื่น ๆ ได้
เสริมสร้างกิจวัตรที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อคุณทราบว่ากิจวัตรใดที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลต่อความสำเร็จมากที่สุดนั้น คุณควรจะให้ความสำคัญต่อมันให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก คุณอาจจะมองหาว่าคุณต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม เพื่อทำให้กิจวัตรนั้นมีประสิทธิผลมากขึ้นไปอีก ดังนั้น การเรียนรู้เพื่อเพิ่มความสามารถของคุณจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตัดออกไปจากการใช้ชีวิตไม่ได้ดั่งคำสอนที่ว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียน”
ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
คนเรานั้นมีเวลาในแต่ละวันเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมใช้เวลาในแต่ละวินาทีไม่เหมือนกัน แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จจะใช้เวลาในการเริ่มต้นชีวิตในแต่ละวันด้วยการทำสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จมากที่สุดก่อนเป็นอย่างแรก สิ่งจำเป็นที่เราอาจจะเข้าใจผิดมาตลอดก็คือการพยายามทำหลายสิ่งในแต่ละวัน เพราะเชื่อมั่นว่าการทำสิ่งต่าง ๆ หลายอย่างในวันเดียวจะก่อให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดอย่างยิ่งที่ไม่ควรทำ
ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะให้เวลาในการทำกิจวัตรที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุดก่อนเป็นสิ่งแรก ที่สำคัญมากกว่านั้นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ทำก็คือ พวกเขาจะทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่ทำอะไรหลายอย่างไปพร้อมกัน เพราะการทำอะไรหลายอย่างไปพร้อมกันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรแถมยังทำให้เราไม่สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
ถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่างานใดก่อให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด นั่นก็คือการจดจำและเรียนรู้กิจวัตรของตัวเองอย่างที่ได้อธิบายไปแล้วในตอนต้น อย่าลืมว่าอะไรที่เราทำแล้วก่อให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด คุณก็ควรจะทำสิ่งนั้นก่อนที่จะเริ่มทำกิจวัตรอื่น ๆ รวมถึงงานใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตของคุณ หลังจากนั้นควรจดจำประสิทธิผลของสิ่งที่เราทำเอาไว้ในแต่ละวัน เพราะไม่แน่ว่าสิ่งที่เข้ามาใหม่ในชีวิตเรานั้นอาจจะก่อให้เกิดประสิทธิผลมากกว่าสิ่งเก่า ๆ แล้วก็ปรับเวลาให้ทำสิ่งใหม่ ๆ เหล่านั้นก่อนสิ่งอื่น
องค์ประกอบในการตัดสินใจ
การตัดสินใจในการแก้ปัญหาต่าง ๆ นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมันด้วย หลายคนอาจคิดว่าการตัดสินใจที่จะทำอะไรนั้นเป็นเรื่องยากและจำเป็นต้องมีองค์ประกอบมากมายเพื่อใช้ในการตัดสินใจ แต่ในความเป็นจริงแล้วการตัดสินใจเรื่องใดนั้นไม่ซับซ้อนขนาดนั้น และผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ก็ใช้องค์ประกอบเพียงไม่กี่อย่างมาช่วยในการตัดสินใจ ดังนี้
- สิ่งที่อาจจะทำให้ประสบความสำเร็จคืออะไร
- สิ่งที่อาจจะทำให้ประสบความสำเร็จรองลงมาคืออะไร
- ทำในสิ่งที่อาจประสบความสำเร็จก่อนแล้วค่อยทำสิ่งอื่นที่จะก่อให้เกิดความสำเร็จรองลงมา
เชื่อว่าหลายคนมักจะลำดับงานที่มีความยากและต้องใช้เวลามากในการทำนำมาทำเป็นสิ่งแรกของวัน อันที่จริงแล้วมันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะงานที่มีความยากน้อยกว่าอาจจะเป็นงานที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลมากกว่าก็เป็นได้ ดังนั้น การจัดลำดับงานที่จะทำนั้นไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ใช้เวลามากกว่าก่อน แต่ให้ลำดับสิ่งที่จะก่อให้เกิดประสิทธิผลมากกว่าก่อน
การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
จงอย่าเริ่มต้นการตัดสินใจด้วยการตามความคิดเห็นของผู้อื่น แน่นอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพยายามดำเนินรอยตามผู้ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน แต่สิ่งที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนทำนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ดังจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วผู้บริหารหลายคนที่ประสบความสำเร็จนั้นมักริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ที่พวกเขาเชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จมากกว่า
คุณเองก็เช่นเดียวกัน มีหลายอย่างที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ ซึ่งอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ ดังนั้น จงเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองและทำมันให้ดีที่สุด โดยต้องไม่ลืมว่าคุณควรจดจำไว้ด้วยว่ากิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้นทำให้คุณประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ ถ้าไม่ คุณควรให้ความสำคัญกับความคิดใหม่ ๆ ที่อาจจะทำให้คุณประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม
สรุปสิ่งที่ควรจะทำเพื่อทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
หลายท่านอาจจะคิดว่าขั้นตอนการทำให้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตหรือการทำงานเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น Peter Drucker ได้สรุปขั้นตอนสู่ความสำเร็จไว้ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
- จดจำเวลาที่คุณใช้กับกิจกรรมในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน
- มุ่งเน้นวิสัยทัศน์ไปในสิ่งที่ก่อประสิทธิผลมากที่สุด
- ให้ความสำคัญกับจุดแข็งที่ก่อให้เกิดความสำเร็จในแต่ละวันของคุณมากที่สุดแล้วนำมาใช้ในการดำรงชีวิตทั้งในด้านการงานและการใช้ชีวิต
- จัดลำดับความสำคัญโดยให้สิ่งที่สำคัญมากที่สุดเป็นสิ่งแรก ไม่ใช่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เร่งด่วนมากกว่าเป็นสิ่งแรก
- ดำเนินชีวิตตามหลักการและเหตุผลที่ผ่านการประมวลผลมาแล้วว่าอะไรที่จะทำให้เกิดประสิทธิผลกับคุณมากที่สุด ไม่กลัวการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต และต้องไม่ลืมที่จะปรับชีวิตในแต่ละวันเพื่อทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ
เพียงเท่านี้คุณก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นเดียวกัน
ที่มา : nateliason
และอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จเร็วขึ้น นั่นก็คือ การเลือกเครื่องมือที่ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ลองใช้โปรแกรมบัญชี SMEMOVE ดูที่ใช้งานง่าย สะดวก และราคาประหยัดอีกด้วย แถมยังดูงบการเงินได้แบบ REAL-TIME
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE