ในช่วงที่ผ่านมา (9 กรกฎาคม 2568) ครม. อนุมัติต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เหลือ 7% ก่อนปรับขึ้นเป็น 10% อีก 1 ปี ถึงวันเดือนกันยายน 2569 เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งยังช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร

มาตรการต่ออายุ VAT 7% ก่อนขึ้นเป็น 10% อีก 1 ปี
มาตรฐานต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT นั้น ทางด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้ระบุถึงการขยายมาตรการคงที่ VAT เอาไว้ที่ 7% (มติเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568) โดยจะขยายเพดาน VAT 7% ต่อไปอีก 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569 หรือก็คือ ขึ้น VAT เป็น 10% เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2569 นั่นเอง
โดยการขยายเวลาภาษีมูลค่าเพิ่มเอาไว้ที่ 7% เพื่อรักษาศักยภาพของประเทศในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ บวกกับการรอรัฐบาลดำเนินการ อาจจะมีปัญหาหรือความล่าช้าเกิดขึ้น จึงมีมติคงอัตราภาษีที่ลดลงจาก 10% เหลือ 7% ต่อไปก่อนนั่นเอง โดยการขยายเวลาการลดอัตรา VAT ดังกล่าวนี้ จะช่วยรักษาระดับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ซึ่งก็จะส่งผลต่อการขยายเศรษฐกิจไทยให้ตามเป้าเช่นกัน
เช่นเดียวกับทาง นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ที่กล่าวว่าทางกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ได้ตระหนักถึงความสำคัญโนความเชื่อมั่นและการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออก ตามความในรปะมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่…) พ.ศ…. ขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% (รวมภาษีท้องถิ่น)

รู้ไว้ใช่ว่า VAT ที่จริงแล้วจัดเก็บอยู่ที่ 10%
สำหรับประเด็นเรี่องการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 10% นั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่การจัดเก็บในอัตรา 7% อย่างที่เราคุ้นชินกัน เพราะจริง ๆ แล้วตามกฎหมาย มาตร 80 แห่งประมวลรัษฎากร ได้ระบุเอาไว้ว่า ให้ใช้อัตราภาษี 10% ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการประกอบกิจการ การขยายสินค้า, การให้บริการ และธุรกิจนำเข้า เว้นแต่กรณีที่กำหนดไว้ในมาตรา 80/2
เพราะฉะนั้น ถ้าเอาตามกฎหมายจริง ๆ แล้ว ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT จัดเก็บในอัตรา 10% มาตั้งแต่แรก แต่มีการปรับลดให้เหลือ 7% โดยแบ่งเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรา 30 ในอัตรา 6.3% โดยรายได้ส่วนท้องถิ่นอีกในมาตรา 12 ทวิ ที่ระบุว่า ในกรณีที่ประมวลรัษฎากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราอื่น ให้เทศบาลเก็บ 1 ใน 9 ของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือก็คือ 0.7% เมื่อบวกกับ 6.3% จึงทำให้เรามี VAT อยู่ที่ 7% นั่นเอง

นิติบุคคลที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT
สำหรับธุรกิจหรือนิติบุคคลจดทะเบียน ที่ต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจด VAT ก็คือผู้ประกอบการที่มียอดขายทั้งปีเกิน 1,800,000 บาท (เฉลี่ยเดือนละ 150,000 บาท) โดยจะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียน VAT ภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีมูลค่าของฐานภาษีเกิน 1,800,000 บาท ยกเว้นสินค้าที่ได้รับการยกเว้น เช่น ขายเนื้อสัตว์ หรือผักสด ฯลฯ
สรุป
จะเห็นได้เลยว่า การขึ้น VAT เป็น 10% เริ่มตุลาคม 2569 หรือในปีหน้านี้ ไม่ใช่การปรับเพิ่ม VAT จากฐานเดิมที่ใช้ 7% แต่คือการกลับมาใช้ฐานภาษีมูลค่าเดิมที่มีอยู่แล้ว และหากมีการปรับฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการก็คือ การคำนวณค่าสินค้าและบริการใหม่ เพราะหากมีการปรับขึ้น VAT ตามประกาศของรัฐบาลแล้วยังใช้สินค้าราคาเดิม ก็อาจจะส่งผลต่อต้นทุนสินค้า รายได้ และกำไรจริงของกิจการได้เช่นกัน
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE








