สำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายไม่ว่าจะขายแบบออนไลน์ หรือออฟไลน์ SMEMOVE เชื่อว่าทุกคนต่างก็มีเป้า หรือยอดที่ตั้งไว้ในแต่ละวัน ซึ่งแน่นอนว่ายอดขายเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าวันนี้จะน้อยหรือมากขาดทุนหรือได้กำไร แต่วันนี้ SMEMOVE ก็กลับมาพร้อมกับวิธีดีๆ ที่จะทำให้คุณเพิ่มยอดขายได้ดั่งใจคิด ด้วยหลักจิตวิทยาของการให้ส่วนลด 5 ข้อต่อไปนี้ที่คุณไม่ควรพลาด
1. การเลือกใช้ถ้อยคำ
ในการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่าง หากคุณมีประสบการณ์ที่ต้องพูดคุยกับเจ้าของร้านหรือพนักงานขาย คุณอาจจะได้พบเจอกับตัวแทนขายที่เลือกใช้ถ้อยคำในการพูด หรือการพิมพ์ได้ไม่ดีนักแม้สินค้าจะลดราคา หรือมีราคาถูกกว่าร้านค้าอื่นๆ อยู่ก็ไม่ได้ทำให้คุณอยากซื้อเท่าไรนัก ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าแม้คุณจะลดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ยอดขายก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นอย่างที่ใจหวังลองเปลี่ยนถ้อยคำ หรือภาษาในการพิมพ์ของคุณให้มันดูดึงดูด และน่าสนใจมากยิ่งขึ้นดูไหม
ยกตัวอย่างเช่นจากปกติคุณจะเลือกใช้ถ้อยคำแบบ “ซื้อตอนนี้รับส่วนลด 100 บาท” ที่สื่อให้ลูกค้ารับรู้ว่าเขาจะได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าไป 100 บาท แต่ถ้าหากใช้ถ้อยคำแบบ “ซื้อตอนนี้ประหยัดทันที 100 บาท” ถ้อยคำนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาจะประหยัดเงินได้เมื่อซื้อสินค้ากับคุณ ถึงแม้ว่าทั้ง 2 ประโยคจะเป็นการให้ส่วนลดเหมือนกัน แต่ถ้าเปลี่ยนถ้อยคำใหม่ความหมายที่ออกมาจะมีความลึกซึ้งแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย
2. เลข 9 ที่ดีต้องใช้ให้ถูก
ในปัจจุบันมีสินค้ามากมายที่มักตั้งราคาสินค้าให้ลงท้ายด้วยเลข 9 ไม่ว่าจะเพื่อความสวยงามของตัวเลข ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อสินค้า ตลอดจนเหตุผลอื่นๆ ในการตั้งราคา แต่คุณรู้ไหมว่าบางครั้งเลข 9 ที่ลงท้ายในราคาสินค้าของคุณก็ไม่ได้ให้ผลดีต่อยอดขายเสมอไป เพราะการตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 นั้นเหมาะกับสินค้าบางประเภทที่มีราคาไม่แพงมากนักไปถึงสินค้าที่มีราคาค่อนข้างต่ำ หากนำเลข 9 ไปใช้ในการตั้งราคาของสินค้าที่มีราคาสูง หรูหรา ตลอดจนสินค้าระดับ Hi-end หรือ Luxury goods อาจส่งผลให้ภาพลักษณ์ความหรูหราของสินค้าลดน้อยลงไปได้
3. กำหนดเวลาให้เหมาะสมสำหรับการลดราคา
ระยะเวลาในการให้ส่วนลดก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ และปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น โดยระยะเวลาในการให้ส่วนลดที่เหมาะสม และส่งผลดีต่อยอดขายมากที่สุดนั้นไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์โดยเฉพาะคนที่ทำการขายสินค้าแบบออนไลน์หากกำหนดระยะเวลาในการลดราคานานเกินไปอาจส่งผลเสียได้ในภายหลัง
4. ลดราคาเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าใหม่
การลดราคาถือเป็นสิ่งแรกที่เหล่าพ่อค้าแม่ขายคิดถึงเมื่อต้องการเพิ่มยอดขาย และการลดราคาก็ยังส่งผลดีในหลายๆ ด้านไม่เว้นแม้แต่การเปิดโอกาสให้ลูกค้าใหม่ๆ ได้เข้ามาซื้อสินค้าหรือทดลองใช้งานบริการของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ซื้อที่กำลังพิจารณาสินค้าของคุณอยู่ จะสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อมีโปรโมชั่นดีๆ มากระตุ้น
5. ลดราคาเพื่อรักษาลูกค้าเก่า
ถึงแม้ว่าคุณจะมีลูกค้ามากมายที่คอยซื้อสินค้า หรือบริการของคุณอยู่เป็นประจำ แต่ในบางครั้งคุณก็จำเป็นที่จะต้องเอาใจหรือตอบแทนกลุ่มลูกค้าประจำของคุณด้วย เพื่อแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าที่อุดหนุนคุณอยู่เป็นประจำ และทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษที่ตัวเองได้รับแต่เพียงผู้เดียวจากลูกค้าทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเก่าของคุณประทับใจและกลับมาอุดหนุนคุณอยู่เป็นประจำ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับความรู้ดีๆ ในการลดราคาที่น่าสนใจที่ SMEMOVE นำมาฝากในวันนี้ หากใครคิดว่าน่าสนใจ ก็สามารถนำไปปรับใช้กับกิจการของตัวเองได้เลยนะคะ และสำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยดีๆ ในการทำธุรกิจรูปแบบอื่นอยู่ ก็อย่าลืมมาทดลองใช้งานโปรแกรมบันทึกบัญชีออนไลน์ SMEMOVE ดูนะคะ เพราะโปรแกรมของเรานั้นทำได้มากกว่าการบันทึกบัญชี และพร้อมมอบความสะดวกสบายให้กับการทำงานของคุณ
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE