จากประเด็นการออกมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของทางกรมสรรพากร ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เชื่อว่านิติบุคคลหลาย ๆ คน ก็คงอยากรู้ว่า การลงทุนในพื้นที่ SEZ เป็นอย่างไร จะมีความคุ้มค่าหรือไม่หากเลือกลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศไทย แล้วในปัจจุบันพื้นที่ที่จัดเป็นเขตส่งเสริมการลงทุนพิเศษมีจังหวัดไหนบ้าง พร้อมสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับนิติบุคคล
เขตเศรษฐกิจพิเศษ SEZ คืออะไร?
เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone: SEZ) คือ บริเวณพื้นที่ที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) กำหนดให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ที่ทางรัฐบาลจะสนับสนุนโครงสร้างพื้นที่ สิทธิประโยชน์การลงทุน การบริหารแรงงานต่างด้าวแบบไป – กลับ และการให้บริการอื่น ๆ ที่จำเป็น
โดยการจัดตั้งเศรษฐกิจพิเศษในประเทศไทย ได้เริ่มจากการผลักดันของธนารคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ภายใต้กลยุทธิ์ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา ซึ่งการกำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะ มีทั้งหมด 10 จังหวัด
สำหรับวัตถุประสงค์ของการกำหนดพื้นที่ SEZ ก็คือการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค โดยใช้โอกาสจากอาเซียน พร้อมลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญคือ สร้างความมั่นคงในพื้นที่บริเวณชายแดน ที่ก็จะส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
เขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด มีที่ไหนบ้าง?
- ตาก
- มุกดาหาร
- สระแก้ว
- สงขลา
- ตราด
- หนองคาย
- นราธิวาส
- เชียงราย
- นครพนม
- กาญจนบุรี
มาตรการกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ SEZ ปี 2568
โดยล่าสุดทาง นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ได้เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ออกความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร โดยกระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากร ได้มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้มีการปรับปรุงมาตรการภาษี พร้อมลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 10% ของกำไรสุทธิ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ประกอบกิจการเป้าหมายตามที่คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ ในเขตส่งเสริมการลงทุนพิเศษตามที่กำหนด
สำหรับมาตรการการกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนี้ จะทำให้การผลิตสินค้า การให้บริการ และการจ้างงานในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพิ่มขึ้น ทำให้มีการผลิตสินค้าและการให้บริการ ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักและประเทศ
เงื่อนไขการลดอัตราภาษีนิติบุคคลในเขตพื้นที่ SEZ 10%
สำหรับนิติบุคคลที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จากการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในไทยทั้ง 10 จังหวัด จะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 10% เป็นระยะเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน มีผลนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นต้นมา
- ต้องมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไม่ว่าจะมีสำนักงาใหญ่ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม
- รายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี จะต้องเกิดจากการผลิตสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือการให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนนับตั้งแต่ที่มีผลบังคับใช้ สถานประกอบกิจการต้องเป็นอาคารถาวรที่ขยาย หรือเพิ่มเติมจากสะถานประกอบการเดิมที่มีอยู่แล้ว
- การนับรอบระยะเวลาบัญชีจะเริ่มหรือหลังวันที่ได้จดแจ่งขอใช้สิทธิต่อกรมสรรพากร
- หากมีการจดแจ้งขอใช้สิทธิระหว่างรอบบัญชีใดก็ตาม ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีเป็นรอบแรก
- นิติบุคคลต้องได้จดแจ้งการขอใช้สิทธิในเขต SEZ ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
- จะต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
- ต้องไม่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา 6 หรือมาตรา 4 ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร
- ต้องจดทำบัญชีแยกรายการ สำหรับกิจการที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในเขตส่งเสริมการลงทุน SEZ
สรุป
เรียกได้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ด้วยการสนับสนุนการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ SEZ ทั้ง 10 จังหวัด ที่ทางกรมสรรพากรมีมาตรการการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือเพียง 10% ถึง 10 รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับนิติบุคคล ที่ต้องการสร้างธุรกิจในท้องถิ่น ที่นอกจากจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีนิติบุคคลแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจในพื้นที่ SEZ อีกด้วย
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE