การประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการทำธุรกิจครอบครัว นับว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในไทย เพราะเป็นธุรกิจที่บริหารจัดการได้ง่าย สามารถส่งต่อให้ทายาทสืบทอดธุรกิจได้ และหากวางแผนการบริหารธุรกิจครอบครัวเอาไว้ดี ก็ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าการทำธุรกิจครอบครัว มีเคล็ดลับในการประกอบธุรกิจยังไง แล้วมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จัก ธุรกิจครอบครัว คืออะไร?
ธุรกิจครอบครัว (Family Business) คือ ธุรกิจที่หุ้นส่วนของกิจการมากกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นเจ้าของโดยสมาชิกของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวได้รับความนิยมในเมืองไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสามารถส่งไม้ต่อให้กับทายาทหรือลูกหลานได้ และผลประโยชน์ของธุรกิจโดยส่วนมากเป็นของสมาชิกในครอบครัว
เพราะฉะนั้น วางแผนธุรกิจและการสืบทอดธุรกิจครอบครัว จึงมีส่วนสำคัญที่จะทำให้กิจการของครอบครัวยืนหยัดต่อไปได้ ไม่ล้มหายตายจากไปจากวงการธุรกิจ ถึงแม้ว่าสภาพสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม และหากดูจากสัดส่วนของธุรกิจที่ดำเนินกิจการแล้ว จะพบว่าธุรกิจส่วนมากเป็นธุรกิจแบบครอบครัว มีการส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น มีทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่ากงสีคือธุรกิจครอบครัว เพราะเป็นรูปแบบเดียวกัน และอยู่ภายใต้ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วธุรกิจครอบครัวเติบโตมาจากกงสีในยุคแรก ๆ เพราะสมัยก่อนกงสีถือเป็นของทุกคน แต่ปัจจุบันมีการแยกเงินกงสีออกจากธุรกิจอย่างชัดเจน เพื่อการดำเนินกิจการที่โปร่งใส
เจาะลึกปัญหาที่ธุรกิจครอบครัวมักเผชิญ
ถึงแม้ว่าธุรกิจครอบครัวจะเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้หากมีการวางแผนที่ดี แต่ก็ยังมีปัญหาในหลาย ๆ มุมมอง ที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ธุรกิจครอบครัวไม่สามารถไปต่อได้ การสืบทอดธุรกิจครอบครัวก็ไม่สามารถส่งต่อให้ทายาทรุ่นต่อ ๆ ไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ขาดการวางแผนเรื่องการส่งต่อธุรกิจที่มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งการสืบทอดธุรกิจให้ทายาทอาจใช้เวลานาน มีกระบวนการที่ซับซ้อน หากมารับช่วงต่อโดยไม่มีประสบการณ์ก็อาจทำให้การบริหารงานไม่ราบรื่นได้
- มีความขัดแย้ง และการบริหารทรัพย์สิน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดความขัดแย้งในครอบครัว ซึ่งบางครั้งก็อาจมีปัญหามาจากการขาดความเชื่อมั่นต่อกันและกันได้
- ไม่มีคนที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ และสืบทอดตำแหน่ง เพราะการสืบทอดธุรกิจเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมกัน โดยเฉพาะการเลือกผู้สืบทอดที่มีความพร้อมในการรับไม้ต่อบริหารธุรกิจ
- ขาดความรู้เรื่องการบริหารการเงินบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจครอบครัวแบบกงสี ที่ไม่แยกเงินกงสีครอบครัวออกจากเงินที่ใช้บริหารธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้ขาดความโปร่งใสและเป็นระบบ
การวางแผนธุรกิจครอบครัว เพื่อการเติบโตของธุรกิจ
1. มีกฎและกติการในการทำธุรกิจที่ชัดเจน
การวางแผนทำธุรกิจครอบครัวที่ดี ต้องเริ่มจากการวางกฎ ระเบียบ และกติกาของสมาชิกในครอบครัวอย่างชัดเจน โดยรวมไปถึงการจัดโครงสร้างให้แข็งแรง มีการถือหุ้นภายในบริษัท พร้อมการใช้เอกสารที่มีผลบังคับทางกฎหมายมาเป็นตัวช่วย เพื่อสร้างความเข้าใจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และที่ขาดไม่ได้คือ การจัดสรรผลประโยชน์ต้องเป็นธรรม ตามบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกแต่ละคน
3. การจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพ
ต้องเข้าใจก่อนว่าธุรกิจคือการมุ่งเน้นผลประโยชน์และผลตอบแทนเป็นหลัก ดังนั้น การประกอบธุรกิจครอบครัวบางอย่างก็ต้องมีการอาศัยผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาร่วมงานด้วย เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจครอบครัวที่มีคณะกรรมการ จากผลสำรวจพบว่าธุรกิจครอบครัวที่สำเร็จกว่า 67% ล้วนมีคณะกรรมทั้งสิ้น
และที่ขาดไม่ได้คือ การทำธุรกิจครอบครัวควรมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการ หรือหากเป็นธุรกิจเล็ก ๆ อาทิ เปิดร้านขายของชำ ร้านโชห่วย หรือร้านค้าปลีก ก็ต้องมีการจดทะเบียนพาณิชย์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ควรลงทุนในเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
3. การบริหารครอบครัว ด้วยธรรมนูญครอบครัว
สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตได้อย่างยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับธรรมนูญครอบครัว ที่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวกำหนดกฎ กติกา และเงื่อนไขในการทำงานของสมาชิกในครอบครัว ทำให้ลดปัญหาของสมาชิกรุ่นต่อ ๆ ไป ที่จะเข้ามารับไม้ต่อธุรกิจของครอบครัวได้ ชนิดที่ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของธุรกิจในระยะยาวก็ว่าได้ โดยมีหลักการ 3 หลักการ คือ
- หลักการปกครองกันเองภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น การบริหารเงินกองทุนครอบครัว การเปิดธุรกิจใหม่ และสวัสดิการของคนในครอบครัว
- หลักการในการทำธุรกิจของครอบครัว โดยต้องมีการตกลงเรื่องแนวทางที่ชัดเจน รวมถึงเรื่องของหุ้น ที่ดิน ที่ถือในนามของครอบครัว ที่ต้องอยู่ภายใน Family Wealth ไม่ใช่ Corporate Wealth และต้องมีการจัดตั้งกองทุนครอบครัวร่วมด้วย
- หลักการกำหนดคุณสมบัติของคนที่จะมารับช่วงต่อธุรกิจ เพื่อป้องกันการแย่งชิงตำแหน่งในธุรกิจ ดังนั้น ผู้ที่จะมารับช่วงต่อต้องมีคุณสมบัติที่ชัดเจน เหมาะสม มีคณะกรรมการตัดสิน เพื่อให้ไม่มีปัญหาในอนาคต
ดังนั้น การกำหนดธรรมนูญครอบครัว หรือ กฎของบ้าน จึงต้องวางกฎเกณฑ์ตั้งแต่ก่อนมีปัญหา หรือก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต และอาจส่งผลต่อผลประโยชน์หรือผลตอบแทนของสมาชิกที่จะได้รับ ซึ่งหากลองศึกษาแล้วจะพบว่า หลาย ๆ ธุรกิจครอบครัว รวมถึงธุรกิจกงสี ที่ประสบความสำเร็จได้ จะให้ความสำคัญกับธรรมนูญครอบครัวเป็นอันดับแรก
สรุป
จะเห็นได้เลยว่า การทำธุรกิจครอบครัวไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทำกันในครอบครัวไม่กี่คน หรือเป็นธุรกิจที่ขยายใหญ่ขึ้นมา ตามการเติบโตของตลาด สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการวางรากฐานของธุรกิจให้มั่นคง มีความเป็นธรรม และการให้ความสำคัญกับธรรมนูญครอบครัว ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน และที่ขาดไม่ได้คือ การวางระบบการเงิน บัญชี และเอกสารทางธุรกิจให้เป็นระบบที่ชัดเจน เพื่อลดปัญหาในอนาคต
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE