ครม. เคาะแล้ว! กับมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ประจำปี 2568 ด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยโครงการ “เที่ยวดี มีคืน” ในช่วงปลายปีนี้ โดยรองรับทั้งการท่องเที่ยวในเมืองหลักและเมืองรอง นำไปใช้ลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้

โครงการ “เที่ยวดี มีคืน” ลดหย่อนภาษี 2568
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ “เที่ยวดี มีคืน” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี หรือช่วง High Season รวมถึงการเร่งใช้จ่ายภาครัฐ ด้วยนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 เสาหลักของนโยบายรัฐบาล
โดยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวดังกล่าวนี้ เพื่อทำให้คนไทยหันกลับมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ในช่วงที่เหลือของปี 2568 ต่อเนื่องจนถึงปี 2569 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ทั้งยังสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนปรับปรุงโรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวในระยะสั้น แต่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้ประกอบการในระยะยาว
สำหรับโครงการ “เที่ยวดี มีคืน” ให้สิทธิบุคคลธรรมดาสามารถนำค่าที่พักโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย และค่าที่พักในสถานที่ที่ไม่เป็นโรงแรม รวมถึงค่าบริการของร้านอาหาร ที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นับตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ไปจนถึงงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นำไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของโครงการ

มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” และการลดหย่อนภาษี 2568
1. บุคคลธรรมดา ลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท
สำหรับบุคคลธรรมดาสามารถนำค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหาร ที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยมีเงื่อนไขคือ
- 10,000 บาทแรก ต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีทั้งในรูปแบบกระดาษและ e-Tax Invoice
- 10,000 บาทถัดไป ต้องใช้หลักฐานที่เป็น e-Tax Invoice เท่านั้น
โดยการลดหย่อนภาษีหากเป็นการท่องเที่ยวเมืองรอง สามารถลดหย่อนได้ 1.5 เท่า โดยหักลดหย่อนตามจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนถ้าเป็นการท่องเที่ยวเมืองหลัก สามารถหักลดหย่อนได้ 1 เท่า ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
2. เที่ยวดี มีคืน สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นนิติบุคคล
นอกจากนี้มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศไปใช้หักลดหย่อนได้ โดยต้องใช้หลักฐานเป็น e-Tax Invoice เท่านั้น ยกเว้นค่าขนส่ง เพียงแค่ต้องมี e-Receipt
- เมืองรอง หักค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริง 2 เท่า
- นอกจากเมืองรอง สามารถหักค่าใช้จ่ายตามที่จ่ายจริงได้ 5 เท่า
สำหรับค่าใช้จ่ายสามารถใช้ได้ทั้งรายจ่ายสำหรับการจดสัมมนา ไม่ว่าจะเป็น รายจ่ายห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการจดอบรมสัมมนาที่เกิดขึ้นทั้งในเมืองรองและเมืองอื่นต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่แยกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใด และหากไม่สามารถแยกได้ให้หักค่าใช้จ่าย 1.5 เท่าของรายจ่ายตามจริง (นับเป็นรายจ่ายนอกเมืองรอง 55 จังหวัด)

3. การสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก ลดหย่อนภาษี
นอกจากนี้ผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ยังสามารถนำค่าใช้จ่ายรายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง หรือขยายออก หรือก็คือการปรับปรุงให้ที่พักดีขึ้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ สามารถนำไปหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า โดยทรัพย์สินดังกล่าวนี้ หมายถึงอาคารถาวรที่มีไว้ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรม และเครื่องตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบและยึดติดกับอาคาร
4. ลดภาษีสำหรับกิจกรรมบันเทิง – หย่อนใจ เหลือ 5%
ในมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ “เที่ยวดี มีคืน” กิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 อาทิ ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ ฯลฯ จะได้รับการสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 10% เป็น 5% ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2569

สรุป
สำหรับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ด้วยโครงการ “เที่ยวดี มีคืน” ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 นี้ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการดีดีจากทางภาครัฐ ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวไทยหันกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้ว ก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมกับมาตรการนี้ โดยเฉพาะการออก e-Tax Invoice เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568 นี้ต่อไป
ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE
คู่มือการใช้งาน : HELP
ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่
บทความบัญชี: smemove.com/blog
Facebook: Facebook.com/smemove.th
Youtube: SMEMOVE








