อัปเดต! กองทุนลดหย่อนภาษี 2568 และมาตรการต่ออายุกองทุน SSF

By posted on April 22, 2025 9:44AM
อัปเดต! กองทุนลดหย่อนภาษี 2568 และมาตรการต่ออายุกองทุน SSF

การวางแผนทางภาษีของมนุษย์เงินเดือน หรือผู้ที่มีเงินได้ทุก ๆ คน ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการวางแผนลดหย่อนภาษีแต่ละรายการ เพราะฉะนั้น เรามาอัปเดตกันหน่อยว่า กองทุนลดหย่อนภาษี ปี 2568 นี้มีกองทุนไหนบ้าง แล้วแต่ละประเภทลดหย่อนได้เท่าไหร่ รวมถึงอัปเดตกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ที่เพิ่งมีมติการจัดตั้งกองทุนไปไม่นานมานี้ สรุปจบในบทความเดียว

กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

กองทุนลดหย่อนภาษี 2568 ปีนี้มีอะไรบ้าง?

ในบรรดากองทุนลดหย่อนภาษี ปี 2568 นี้ ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะมีทั้งกองทุนที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้แล้ว และกองทุนที่เปิดตัวใหม่ พร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม ที่ผู้มีเงินได้สามารถนำไปใช้ประกอบการลดหย่อนได้ โดยในปีนี้กองทุนที่น่าสนใจ คือ Thai ESG Extra (Thai ESGX) ส่วนกองทุนอื่น ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเพิ่มเติมเช่นกัน

กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

1. กองทุน RMF และกองทุนอื่น ๆ (เดิม)

สำหรับรายการลดหย่อนภาษีที่ยังคงเดิม คือ การลงทุนในกองทุน RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุน กบข., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครู สามารถลดหย่อนภาษี 2568 ได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน โดยไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถลดหย่อนได้ทุก ๆ ปีตามที่เราคุ้นชินกัน

2. กองทุน Thai ESG

สำหรับกองทุน Thai ESG เป็นกองทุนที่ถูกเพิ่มเขามาในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยในปี 2568 นี้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือไม่เกิน 300,000 บาท โดยสามารถลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้เลย โดยไม่ต้องนำไปรวมเข้ากับกองทุนเกษียณกลุ่มอื่น ๆ

3. กองทุน Thai ESGX (ใช้เงินใหม่ซื้อ)

หรือกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG Extra ที่เพิ่งมีมติเห็นชอบจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยกองทุน Thai ESGX จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้เงินใหม่ซื้อ และส่วนที่สับเปลี่ยนจาก LTF โดยส่วนที่ใช้เงินใหม่ซื้อสามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่ต้องรวมกับกองทุนกลุ่มเกษียณอื่น ๆ แต่เงื่อนไขคือ ต้องลงทุนภายในวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น

4. กองทุน Thai ESGX (สับเปลี่ยนจาก LTF)

สำหรับกองทุน Thai ESGX ส่วนที่สับเปลี่ยนจาก LTF เป็นกองทุนที่รองรับเงินลงทุนของผู้ที่ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF ที่ปัจจุบันยังคงค้างอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาท โดยนักลงทุนสามารถโยกเงินจาก LTF มาอยู่ใน Thai ESGX ได้ พร้อมใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2568 ได้สูงสุดถึง 500,000 บาท แบ่งเป็นลดหย่อนในปีนี้จำนวน 300,000 บาทแรก และทยอยลดหย่อนอีก 200,000 บาท ในปีที่เหลือ ปีละไม่เกิน 50,000 บาท โดยเงื่อนไขจะเหมือนกับส่วนที่ใช้เงินใหม่ซื้อ คือต้องลงทุนภายในวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568

กองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ Thai ESG Extra

ทำความรู้จัก กองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ Thai ESG Extra

กองทุนลดหย่อนภาษีใหม่อย่าง Thai ESG Extra ถือเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีที่พิเศษมากกว่าปีก่อน ๆ เพราะนอกจากจะสามารถลดหย่อนได้มากขึ้นแล้ว ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยได้เช่นกัน เพราะกองทุน Thai ESGX ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาภาวะตลาดหุ้นไทยในปีนี้ โดยกองทุน LTF ทั้งหมดจะครบกำหนดการถือครอง ทำให้คนอาจเทขายกองทุนที่ลงทุนออกมา ส่งผลต่อการกดดันตลาดหุ้นไทย

นอกจากนี้ กองทุน Thai ESGX ยังเป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนแบบยั่งยืน โดยรัฐบาลมีความต้องการสนับสนุนให้คนไทยลงทุนกับบริษัทที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยสัดส่วนการลงทุนจะเหมือน Thai ESGคือลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV แต่ Thai ESGX มีข้อกำหนดเพิ่มเติมคือ ต้องลงทุนในหุ้นยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV ส่วนเงินลงทุนอื่น ๆ สามารถลงทุนได้ไม่เกิน 20% ของ NAV

สัดส่วนการลงทุนของ Thai ESGX ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

  • ลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV
  • ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน
  • โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน

สำหรับระยะเวลาการถือครองของกองทุน Thai ESGX จะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5 ปี โดยรวมทั้งกลุ่มที่ใช้เงินใหม่ลงทุนและกลุ่มที่ใช้เงิน LTF เก่า โดยการนับจะนับแบบวันชนวัน และนับจากวันที่แจ้งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน

มาตรการกองทุนลดหย่อนภาษี 2568

สรุปเพิ่มเติม กับมาตรการต่ออายุกองทุน SSF

ในช่วงที่ผ่านมาเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงได้ยินประเด็นการต่ออายุกองทุนลดหย่อนภาษี SSF (Super Saving Funds) กันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเท่านั้น ซึ่งกองทุน SSF หมดอายุเมื่อปี 2567 ที่สามารถนำไปใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ นอกนั้นคือการถือครองไปอีก 10 ปี ตามหลักเกณฑ์ของกองทุน

โดยอัปเดตล่าสุดคือ ทางเฟทโก้ได้ส่งหนังสือเพื่อหารือกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐบาลตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพูดคุยในประเด็นการต่ออายุมาตรการภาษีของกองทุน SSF ว่าจะถูกนำมาใช้เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีต่อหรือไม่ เพราะฉะนั้น หากใครทื่อยากลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีปี 2568 นี้ ก็สามารถลงทุนในกองทุน RMF, Thai ESG และ Thai ESGX ก่อนได้

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP

ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่

บทความบัญชี: smemove.com/blog

Facebook: Facebook.com/smemove.th

Youtube: SMEMOVE