ภาษีขายของออนไลน์ ต้องเสียอย่างไร และแผนการเสียภาษีให้ถูกต้อง

By posted on September 10, 2019 3:33PM

หลายคนอาจจะรู้สึกสงสัยว่าการค้าขายแบบออนไลน์นั้นจำเป็นจะต้องเสียภาษีด้วยหรือ SMEMOVE ขอตอบเลยค่ะว่าใช่ การขายออนไลน์จะต้องทำการเสียภาษีขายของออนไลน์ด้วย เพราะรายได้จากการขายของออนไลน์ที่เกิดภายในประเทศไทย ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามกฎหมายประมวลรัษฎากร แต่หากทำการขายที่ประเทศอื่นก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศอื่นแทน

รายได้จากการขายของออนไลน์เท่าไหร่ ถึงจะต้องเริ่มจ่ายภาษี

หากคุณมีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ไม่มากนัก คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียภาษี เพราะการยื่นภาษีจะต้องมาจากรายได้สุทธิหลังหักส่วนต่างๆ ออกไปแล้วโดยมีจำนวนเงินได้สุทธิไม่ต่ำกว่า 150,000 บาท หากต่ำกว่า 150,000 บาทก็ไม่ต้องจ่ายภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในกรณีที่มีรายได้สิทธิหลังทำการคำนวณแล้วมากกว่า 150,000 บาท ก็ต้องทำการเสียภาษีตามอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้

แผนการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย

การเสียภาษีไม่ใช่เรื่องยากเพียงแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามความเป็นจริงการวางแผนที่ดีที่สุดที่คุณควรทำคือการศึกษาเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ ของภาษีแต่ละรูปแบบ โดยเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคลที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีได้ในบางรายการถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังจะต้องศึกษาถึงช่วงเวลาในการยื่นภาษีแต่ละตัวว่ากรมสรรพากรจะเปิดรับการยื่นชำระภาษีในช่วงเวลาใด

วิธีการคำนวณภาษีขายของออนไลน์

การคำนวณภาษีสามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้สูตรนี้ในการคำนวณ

เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน

เงินได้พึงประเมินคือเงินได้ที่กฎหมายบังคับให้นำมาเสียภาษี ซึ่งเงินได้พึงประเมินก็คือเงินที่ได้รับมาทุกรายการยกเว้นเงินได้ที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าได้รับการยกเว้นภาษีที่ไม่จำเป็นจะต้องนำมาคำนวณ ประเภทเงินได้พึงประเมินก็จะมีหลายรูปแบบเช่น เงินสด ทรัพย์สินที่สามารถตีราคาได้ สิทธิประโยชน์ที่สามารถตีราคาได้ ฯลฯ การขายของออนไลน์ หรือการซื้อมาขายไปจัดเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8

กรมสรรพากรอนุญาตให้สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธีคือการหักแบบเหมา และการหักตามจริง ประเภทการหักที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ขายสินค้าออนไลน์คือการหักแบบเหมาเพราะจะทำให้การยื่นภาษีสามารถทำได้ง่าย สะดวก ใช้เอกสารประกอบการยื่นไม่มาก อัตราการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมากรมสรรพากรกำหนดให้หักได้ 60% จากรายได้การซื้อมาขายไป สรุปง่ายๆ ว่า ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักได้จะเท่ากับ 0.6x หรือ 60% ของเงินได้พึงประเมินที่จะต้องเสียภาษี

ค่าลดหย่อนเป็นสิ่งที่แต่ละคนจะมีแตกต่างกันออกไป เพื่อความง่ายในการคำนวณคุณก็สามารถเริ่มต้นลดหย่อนในเรื่องทั่วไปก่อนเช่นการหักค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส ค่าลดหย่อนบุตร ฯลฯ และหารายการลดหย่อนอื่นๆ ที่คุณสามารถนำมาบวกเพิ่มได้ การลดหย่อนจะทำให้คุณเสียภาษีน้อยลงเมื่อคำนวณภาษี หรือในบางครั้งก็ทำให้คุณได้รับเงินคืนภาษีมากขึ้นอีกด้วย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเตรียมตัวเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ที่ต้องการเสียภาษีอย่างถูกต้องทำไมคุณไม่ลองใช้งานโปรแกรมบันทึกบัญชีออนไลน์ของ SMEMOVE สำหรับจัดการงานบัญชีภายในธุรกิจของคุณดูล่ะ ไม่ว่าจะซื้อ ขาย จ่าย สต๊อกสินค้า บันทึกบัญชี จ่ายภาษี ก็สามารถจัดการได้ที่เดียว ใช้โปรแกรมบันทึกบัญชีออนไลน์ของ SMEMOVE โปรแกรมเดียวจบครบเครื่องสำหรับคนทำธุรกิจทุกประเภท

ทดลองใช้ฟรีได้ที่ : SMEMOVE

คู่มือการใช้งาน : HELP

ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่

บทความบัญชี: smemove.com/blog

Facebook: Facebook.com/smemove.th

Youtube: SMEMOVE